Dictionary VS Hashtable

เนื่องด้วยว่าได้รับมอบหมายให้พูดเรื่อง Dictionary ในที่ประชุมฝ่าย เลยขอ Draft ไว้ในนี้ด้วยเลยละกัน

วิธีการนำเสนอได้แรงบรรดาลใจจากที่ไปงาน IgniteBkk 2010 มา


Note – Hashtable == Dictionary?

A Dictionary is closely related to a HashTable. There are many subtle differences between them, but one important difference is that a Dictionary is generally faster than a Hashtable for storing data.

The reason is that a Dictionary takes strongly-typed values as its input, so you do not suffer the performance impact of storing generic Objects and boxing/unboxing them into the proper types during use.

by kirupa

Reference :

Huahin Trip March 2010

“หัวหิน” … แค่ได้ยินชื่อนี้หลายๆคนก็คงจะเบื่อแล้ว

แต่สำหรับเราแล้ว แทบจะเป็นการเที่ยวหัวหินจริงๆจังๆครั้งแรกก็ว่าได้

เพราะปกติถ้าจะเที่ยวแล้วก็นู่นเลย .. กระบี่ ตรั้ง ภูเก็ต

และการไปหัวหินครั้งนี้ก็ไม่ได้คาดหวังจะได้อะไรมากมาย เพราะครั้นจะไปไกลกว่านี้ก็คงยังไม่ค่อยสะดวกกัน ^^”


ทริปนี้ไปไม่ไกล เลยขี้เกียจจะวางแผน … อยากไปไหนก็ไป อยากเที่ยวไหนก็เที่ยว อยากนอนก็นอน ^^

ออกจากกทม.ตอนเช้าให้ทันก่อนที่เสื้อแดงจะแห่ไปรอบกทม.

จุดแรกที่แวะคือ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน

ดูรูปไปพร้อมๆกันดีกว่าเนอะ

อ้อ.. ทริปนี้มีเจ้า 10-22 มาเสริมทัพแล้ว หลังจากเล็งอยู่นาน สรุปว่าได้มือสองจากน้องในออฟฟิต ^^


ลองพาโนรามาเล็กๆ ที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
เบี้ยวๆตามลักษณะเฉพาะเลนส์ไวด์
บรรยากาศภายนอก สวยสงบดี


4 มีนา กับ Ignite Bangkok 2010

เมื่อวานเป็นวันที่ 4 มี.ค.  2010 จริงๆวันนี้มันเหมือนจะมีความสำคัญอยู่อย่างนึง มันเป็นวันที่เมื่อ 10 ปีที่แล้วมีเด็กๆกลุ่มนึงได้พูดคุยกันไว้ว่าอีกสิบปีข้างหน้า เราจะมาเจอกันในวันนี้ ซึ่งเป็นวันเกิดโรงเรียน …

แต่เมื่อเดือนสองเดือนก่อนจะถึงวันนี้ ก็เริ่มมีความรู้สึกว่า เราจะให้ความสำคัญกับมันซักแค่ไหน จะคาดหวังอะไรกับวันนี้ดีรึป่าว สุดท้ายก็ให้คำตอบกับตัวเองว่า .. อย่าไปคาดหวังอะไรกับมันมากเลย ไม่ใช่เพราะไม่เชื่อมั่นในตัวเพื่อน แต่ว่าความเป็นจริงกับสิ่งที่อยากได้บางทีมันก็ต่างกัน เพราะอะไร .. เพราะเพื่อนๆตอนนี้กว่าครึ่งกลุ่มอยู่ต่างประเทศ แล้วแต่ละคนก็ต่างมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ไม่มีใครผิดที่จะไม่เกิดอะไรในวันนี้ และคิดว่าคงผ่านไป..


เมื่อไม่มีอะไรต้องกังวลกับวันนนี้ ก็เลยตอบรับการโทรมายืนยันจากกงาน IgniteBkk 2010 ที่จัดขึ้นที่ TCDC

เพื่อนๆหลายคนคงสงสัยว่างาน Ignite Bangkok  คืออะไร  (ต่อไปขอเรียกว่า IgniteBkk)  ตาที่ผู้จัดงานเขียนไว้คือ

Ignite เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อให้ผู้คนจากสารพัดวงการมานำเสนอความคิดที่สร้างสรรค์ จุดประกายไอเดียใหม่ๆ หรือเล่าเรื่องราวที่จะทำให้เกิดแรงบันดาลใจแก่ผู้ฟัง ผ่านการเล่าเรื่องในรูปแบบต่างๆ ที่แต่ละคนถนัด ในบรรยากาศแบบ เป็นกันเอง ซึ่งงานนี้ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Pecha Kucha Nights นั่นเอง ทั้งนี้ Igniters (วิทยากร) แต่ละท่านจะมีเวลาพูดคนละ 5 นาที ผ่านสไลด์ 20 แผ่น โดยแต่ละแผ่นจะเปลี่ยนภายในเวลา 15 วินาที งาน Ignite นี้จัดครั้งแรก เมื่อปี 2006 ที่ Seattle จากนั้นงานนี้ก็กลายเป็นงานระดับโลกที่หลายๆ ประเทศนิยมจัดกัน ไม่ว่าจะเป็น Finland, France หรือ New York และอื่นๆ อีกมากมาย

กลับไปดูรายละเอียดงานนี้ได้ที่ ignitebangkok.com ซึ่งงานปีนี้ได้ผู้สนับนุนหลักเป็น Kapook.com


จริงๆตัวเองไม่ค่อยจะได้เข้าร่วมงานประเภทนี้ซักเท่าไหร่ ที่มีทั้ง Barcamp ThinkCamp Wordcamp ซึ่งแต่ละงานก็จะมีเป้าหมาย จุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป

งาน IgniteBkk คราวนี้จัดขึ้น 2 วัน คือวันที่ 3 และ 4 มีนาคม แต่เนื่องด้วยความไม่พร้อมเลยเข้าไปได้แค่วันเดียว อีกวันดูการถ่ายทอดผ่านเน็ตเอา

งาน IgniteBkk นี้ถ้าถามว่าได้อะไรมั๊ย ต้องตอบว่าได้เยอะกว่าที่คิดเยอะเลย จริงๆอาจจะเพราะไม่ได้คาดหวังอะไรตั้งแต่แรก เพราะไม่เคยไปงานแบบนี้มาก่อน


หัวข้อที่ประทับใจในงานนี้ก็ประมาณเช่น (ตามไปดูรูป Igniter ได้ในเว็บ IgniteBkk นะ)

  • Be Magazine: The first social magazine business in Thailand โดยคุณ อารันดร์ อาชาพิลาส
  • การนำเสนอโดยไม่ใช้สไลด์ โดยคุณ @thanr
  • สอนนิสิตให้มีความคิดสร้างสรรค์ โดย อ.ธงชัย โรจน์กังสดาล (@thongnet)
  • Societal transformation via entrepreneurship, technology, and innovation โดย คุณ กระทิง พูนผล (@krating)
  • Art in A(i)rchitecture โดย ดร.เขียนศักดิ์ แสงเกลี้ยง


สรุปว่างานนนี้ได้แรงบันดาลใจ ได้ขุดคุ้ยหาความคิดแปลกๆของตัวเองออกมาอีกครั้ง หลังเก็บมันไว้มานาน เผื่อว่าจะมีวันเอามันออกมาทำให้เป็นรูปเป็นร่างจริงๆเสียที

สุดท้ายก็ขอบคุณ Igniter และผู้จัดงาน IgniteBkk รวมทั้งผู้สนับสนุนงานดีๆแบบนี้ครับ


ปล.คาดว่าน่าจะมีเทปให้ดูย้อนหลังที่ DuoCore.tv ครับ


โชคดีได้ซีดีฟอนต์


กลางเดือนมกราที่ผ่านมา เนื่องในโอกาสเว็บ f0nt.com ครบรอบห้าปี ได้จัดโครงการ ฟอนต์.คอม อารมณ์ดี ครบ 5 ปี เอาซีดีมาแจก! โดยการร่วมสนุกผ่านทางทวีตเตอร์


และในเหตุการ์ครั้งนั้นไอเราก็บ้าบอเล่นนกับเค้าด้วย ดังตัวอย่างในบล๊อคของ ไอ้แอน อันนี้  349 | #อยากได้ซีดีฟอนต์ ลองหาๆดูมีทวีตเราด้วย หุหุ


และแน่นอนว่าเราก็เป็นหนึ่งในผู้โชคดีจากการประกาศผล รายชื่อผู้โชคดีจากกิจกรรม #อยากได้ซีดีฟอนต์ (แน่นอนสิ ถ้าไม่ได้รางวัลแล้วจะเขียนบล๊อคนี้ทำเพื่อ ??)


และแล้วว วันนี้ก็มาถึง เมื่อวานกลับถึงบ้านมีใบแจ้งให้ไปรับ EMS  ประจวบเหมาะกับวันนี้หัวหน้าไม่อยู่ (เลวมะ?) เลยออกเร็วขึ้นหน่อยนึงเพื่อแวะไปเอาก่อนไปกินข้าวเที่ยง


แต่น…. แตน….. แต๊นนนนน

 

ข้างบนเป็นซองที่ได้รับ ส่วน CD ที่อยู่ช้างในนั้นอยู่ข้างนอกซองกันกระแทกอย่างดี – -“

ซีดีฟอนต์

 

 

ส่วนข้างใน .. ยังไม่ได้เปิด 😛

 

ก็ต้องขอบคุณเว็บฟอนต์และไอ้แอนนนนน มานะที่นี้ด้วยครับ ^^”

ปล. รู้สึกสองสามเดือนที่ผ่านมาใช้ดวงไปเยอะมาก ตั้งแต่งานปีใหม่ตลาด ได้ Gift voucher ของ GSMAdvance_Fan แล้วก็ตามมาด้วยซีดีฟอนต์

ปล2.  Entry นี้ไม่ได้มีสาระไรเลย แค่จะบอกว่าได้ซีดีแล้ววววววว

 

บ๋ายบาย

Review : Buffalo LinkStation Duo

ก่อนจะได้เจ้าตัวนี้มาครอบครอง เรื่องมันมีอยู่ว่า

เคยเจออาการที่เรียกว่า “อารยธรรมล่มสลาย” กันมั๊ยครับ .. อาการที่ว่ามักจะมาพร้อมกับการเปิดเครื่องแล้วเข้าวินโดว์ไม่ได้ ดิสก์พังท้ายที่สุดก็ต้องซื้อฮาร์ดดิสก์ใหม่ .. แต่นั่นก็ยังไม่ช้ำใจเท่ากับ “แล้วข้อมูลเก่าของตูล่ะ ??” ไฟล์ต่างๆ โปรแกรมต่างๆ ที่สั่งสมมายาวนานหายไปไหรพริบตา Bookmark เว็บที่เคยเข้า, ไฟล์ Password, Script ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ชีวิต .. หายเกลี้ยง หมดกัน Y_Y

แล้วเคยเจออาการที่แบบว่า เฮ่ยๆหนังเรื่องนี้เจ๋งอ่ะ เอามาดูมั่งๆ …  พอมาถึงเครื่อง … ลบอะไรดีหว่า พื้นที่มันไม่พอ !!

ยิ่งช่วงหลังๆถ่ายรูปเยอะจัดๆ พื้นที่ก็หายไปเป็นเงาตามตัว สิ่งที่ช่วยได้ก็คือหาอะไรมาเก็บข้อมูลเพิ่มรวมทั้งไว้แบคอัพไล์จากคอมนั่นเอง

เมื่อเหตุผลเพียงพอก็ถึงเวลาที่จะจัดหา External Storage ซักตัวเพื่อเอาไว้เก็บข้อมูลรูปถ่าย เพลง ไฟล์สำคัญต่างๆ

หลังจากนำเรื่องการซื้อเจ้า External Storage เข้าสู่ที่ประชุม ที่ประชุมก็อนุมัติให้ซื้อได้ (ก็ตูนี่แหละ ประชุมอยู่คนเดียว) เลยได้กำหนด Spec คร่าวๆดังนี้

  • มีทั้งพอร์ท Lan และ USB ซึ่งด้วยเงื่อนไขอันนี้แหล่ะทำให้มันแพง ถ้าธรรมดามีเฉพาะ USB หรือมี Firewire ราคาจะไม่แพงเท่านี้ แต่ข้อเสียมันก็คือ มันจะ Access ได้ทีละเครื่องเท่านั้น จะต่อ PC ก็ต้องมาเสียบที โน๊ตบุคก็ต้องเสียบอีกที สู้ต่อ Lan เข้า Router ไปเลยทีเดียวจบ
  • ขนาดไม่ควรต่ำกว่า 1 TB (อ่านว่า เทราไบต์ และ 1 TB = 1000 GB)
  • รูปร่างหน้าตาควรจะไปวัดไปวาได้บ้าง ขนาดเล็กได้ยิ่งดี (อันนี้วัดความพึงพอใจล้วนๆ)

หลังจากนั้นจึงได้วิเคราะห์ออกมาแล้วว ว่าเป็นเจ้า LINKSTATION PRO 1.5TB ของ Buffalo (หวังว่าใช้แล้วจะไม่ได้รู้สึกตามชื่อมันนะ)

แต่ๆๆๆ พอไปซื้อเดินซื้อที่ IT Square ก็พบว่ารุ่นนี้ไม่มีขายแล้ว แล้วเค้าก็ไม่ได้นำเข้ามาแล้ว Y_Y (ไม่รู้จริงๅหรือว่าหลอกอ่ะเนอะ) สุดท้ายแล้วเลยกัดฟันกัดเหงือกกัดลิ้นกัดคอถอยเจ้า Buffalo LinkStation Duo ขนาด 2 TB มาแทนเสียเงินเยอะกว่าเดิมเยอะเลย Y_Y

Spec ก็ตามนี้เลย (ต้นฉบับ) รุ่น LS-WX2.0TL/R1

มาลองแกะกล่องดูกัน

Scroll to top