Review: Huawei P9 Plus

เนื่องมาจากว่ามือถือ Samsung Galaxy S5 ได้ตายอย่างไม่สงบไปเมื่อสองวันก่อน ด้วยอาการ boot loop วนไปเรื่อยๆ ลอง flash rom ใหม่แล้วก็ไม่หาย (นี่มันปี 2016 แล้วนะ เรายังต้องมานั่ง flash rom โทรศัพท์อยู่อีกหรือนี่) เลยต้องขุด S3 ที่สภาพไม่ค่อยจะสู้ดีมาใช้ไปพลาง แล้วก็หาเครื่องใหม่ให้เร็วที่สุด เพราะเปิด 2 steps verification เอาไว้ประมาณ 10 account มือถืออาการร่อแร่แล้ววุ่นวายชีวิตมาก เลยต้องรีบซื้อใหม่

ตอนซื้อ ตัดสินใจด้วยเงือนไขเดียวคือ เบื่อ Samsung แล้ว อยากลองอันอื่นบ้าง จริงๆแอบรอ Nexus Phone ตัวใหม่ (ที่เหมือนจะรีแบรนเป็นชื่อ Pixel) …

เลิกงานเลยเดินเข้า Shop AIS หาเครื่องใหม่ ตัวที่เข้าตาก็เป็น Huawei P9 Plus เลยจัดเลย แบบอารมณ์ชั่ววูบมาก ได้โปร Handset special อะไรซักอย่าง ลดเหลือ 15,900 บังคับค่าโปรอีก 3,000 รวมๆก็ลดไป หลายอยู่

และนี่คือความรู้สึกแรกหลังใช้มาประมาณ 3 วัน จากมุมมองของคนที่ใช้ Galaxy S1 , S3 และ S5 รวมๆกว่า 6 ปี ได้มั้ง (เรียกว่าสาวกมั๊ย)

  • ตัวเครื่องมันวาว … ตามมาด้วยรอยนิ้วมือเห็นชัดมาก น่าจะต้องเช็ดบ่อย
  • พอร์ทชาร์ตเป็น USB Type C (อันนี้พนง. AIS บอกว่าเป็นพอร์ทของมันเอง ใช้ร่วมกับคนอื่นไม่ได้ ถือว่า miss leading เพราะจริงๆมันเป็นมาตรฐานที่ยังไม่แพร่หลาย) อาจจะต้องซื้อสายเพิ่มหลายเส้น
  • แต่ USB C ก็ทำให้เสียบชาร์ตง่ายขึ้น ไม่ต้องเล็งคว่ำหงายเหมือน micro USB
  • ตอนตั้งค่าครั้งแรก ถ้าเลือก ภาษาเป็นอังกฤษ จะไม่มีให้เลือก Region เป็นไทย .. ก็คือต้องเลือกภาษาไทยไปก่อนเพื่อให้ Region ถูก แล้วเปลี่ยนภาษาหลังจากเซ็ตเสร็จ ..
  • ตำแหน่ง fingerprint sensor อยู่ตรงกับนิ้วชี้ข้างหลังเครื่องพอดี เหมือนจะสะดวกดี
  • เอานิ้วทาบ fingerprint จะปลุกเครื่องอัตโนมัติ ไม่ต้องกดปุ่มใดๆ
  • เปลี่ยนแบตไม่ได้
  • เครื่องเบาและบางมาก ใช้แบบไม่ใส่กรอบยังจับไม่ค่อยถนัด
  • มี Port IR (Infrared) ที่คนอื่นเค้าตัดทิ้งออกไปกันหมดแล้ว แต่เอาไว้ใช้เปิดแอร์ เปลี่ยนช่องทีวีได้ ก็สะดวกดีนะ
  • ไม่มีปุ่ม Physical แยกเหมือนตระกูล Galaxy พวกปุ่ม Home เป็นปุ่มในหน้าจอหมด เข้าใจว่า SS เองที่ไม่ทำตามมาตรฐาน (แต่ชินซะแล้วนี่สิ) ถ้าวางเครื่องบนพื้นราบเช่น โต๊ะทำงาน จะปลุกเครื่องยากมาก
  • มีแถมขาตั้งกล้อง .. ที่เวอร์ไปมากกกก
  • คุณภาพกล้องดูได้ด้านล่าง ถ่ายด้วยโหมด auto ทั้งหมด … ทั้งนี้ตัวเครื่องตั้งหมด pro ได้ คือกำหนดความกว้างรูรับแสง ความไว้ชัตเตอร์เอง ไรงี้ .. แต่ในชีวิตประจำว่าก็คงไม่มานั่งปรับหรอก .. มั้ง
  • เมื่อใช้ความละเอียดสูงสุดของกล้อง จะได้ภาพเป็นอัตราส่วน 4:3 ยังไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่
คอนเสิร์ตเฉลียง ซูมระดับนึง
คอนเสิร์ตเฉลียง ไม่ซูม ย้อนแสง
ขาตั้ง แถมมาด้วยกัน เวอร์วังมาก
ขาตั้ง แถมมาด้วยกัน เวอร์วังมาก
ใกล้ๆบ้าง

อันนี้ขบนรถวิ่งเข้ามากำลังจะจอด
อันนี้ขบนรถวิ่งเข้ามากำลังจะจอด

Android App : aCar

บล็อกที่แล้วเขียนเรื่องผลลัพธ์ทีได้ของโปรแกรมไปก่อนแล้ว .. คราวนี้ลองมาดูตัวแอพ aCar เองบ้าง ว่าทำอะไรได้บ้าง

แอพ aCar ตามชื่อเลย ก็ไว้เก็บข้อมูลของรถเรา รองรับรถหลายคัน (แต่ยังไม่รองรับหลายคนใช้รถคันเดียว)  แต่เวอร์ชันที่ใช้อยู่เป็นเวอร์ชัน Pro เลยจำไม่ได้ว่าตัวฟรีมันมีอันไหนที่ใช้ไม่ได้บ้าง หลักๆน่าจะเป็นแค่เรื่อง Backup ข้อมูลมั้ง

 

สิ่งที่แอพสามารถทำได้คร่าวๆ และเห็นว่ามีประโยชน์ คือ

– บันทึกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งค่าน้ำมัน ค่าซ่อม เข้าศูนย์ โดยเวลาเติมน้ำมันมีข้อมูลสำคัญที่ต้องกรอกคือ เลขไมล์ ราคาน้ำมัน แล้วก็ปริมาณน้ำมันที่เดิม กรอกไปซักพักจะเริ่มเห็นสถิติ

– แอพสามารถเดาว่าจะต้องเติมน้ำมันอีกทีเมื่อไหร่ได้ด้วยโดยดูจากข้อมูลเก่าๆ  แต่เอาเข้าจริงๆ ดูเกจ์น้ำมันในรถเองจะง่ายกว่านะ

aCar-005   aCar-006

– แอพสามารถคาดคะเนอายุการใช้งานของอะไหล่แต่ละชิ้นได้ สามารถเตือนให้เอารถเข้าศูนย์ได้  (เดือนได้ทั้งจากระยะเวลา / ระยะไมล์ที่วิ่ง)

– ฟีเจอร์ที่สำคัญคือบอกสถิติที่ผ่านมา ทั้งอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ต่อวัน ต่อเดือน) ราคาน้ำมัน cost/day บอก Total running cost ด้วย เห็นแล้วตกใจว่าใช้รถนี่เปลืองเงินขนาดนี้เลยหรือนี่

– อีกอันนึงที่จดแล้วอุ่นใจคือ ตอนเต็มน้ำมันจะให้กรอกปั๊มที่เดิมด้วย (ใช้ GPS ดึงข้อมูลปั๊มจาก Foursquare) เวลาเติมปั๊มที่ไม่คุ้นก็จะได้อุ่นใจว่าล่าสุดเติมปั๊มไหน มีปัญหาขึ้นมาจะได้มีข้อมูล

Android App : Kies Air

คนใช้มือถือ Samsung เมื่อพูดถึง Kies หลายๆคนคงส่ายหน้า

 

อธิบายคร่าวๆคือ Kies เป็น Software ของ Samsung บนคอมพิวเตอร์ที่ไว้ใช้จัดการโทรศัพท์มือถือ เหมือน iTunes ของ Apple ยังไงยังงั้น แต่ไม่ว่าจะเป็น Kies หรือ iTunes ต่างมีปัญหาเดียวกัน คือ พยายามจะจัดการทุกอย่างบนโทรศัพท์ให้ได้ โปรแกรมเลยใหญ่โตมหึมา แถมยังมีการเริ่มโปรแกรมเมื่อเปิดเครื่องโดยอัตโนมัติ เพื่อที่ว่าพอเสียบสายต่อกับมือถือจะทำงานได้ทันทีซึ่งก็ทำให้เครื่องคอมอืดขึ้นไปอีก หลายๆคนเลยขยาดกับ Kies เต็มที่ ..

แต่ๆๆ .. จริงๆแล้ว Samsung มีโปรแกรมอีกตัวนึงที่ชื่อว่า Kies Air ซึ่งทำหน้าที่คล้ายๆกัน แต่กลับฝั่งกัน คือ แทนที่จะลงบนคอม ก็ให้ลงบนโทรศัพท์มือถือแทน แล้วอยากจัดการอะไรก็เข้าผ่าน Web browser ในคอมเข้าไปจัดการ .. ซึ่งง่ายกว่าตั้งเยอะ ไม่ต้องลงโปรแกรมให้หนักคอมอีกตังหาก ไปใช้คอมเครื่องไหนๆก็ทำได้

ก่อนจะใช้ Kies Air ได้นั้น สิ่งที่ต้องเตรียมคือ ..

1. ดาวโปรแกรม Kies Air มาลงบนโทรศัพท์ ได้จากที่นี่ 

2. โทรศัพท์ และ คอมพืวเตอร์ที่จะใช้ ต้องอยู่ใน Network เดียวกัน (เอาง่ายๆคือ มือถือกับคอมต่อ WiFi เดียวกันอยู่, ยากๆก็คือคอมต้อง Access port 8080 บนมือถือได้)

ลองมาดู Step วิธีใช้กัน ..

Android: Emergency Call

เคยคิดจะเขียนเรื่องนี้มานานล่ะ แต่ว่าคนใช้ Android (โดยเฉพาะ Samsung) ยังไม่เยอะพอ ..

มาวันนี้คนใช้ SS เยอะขึ้นมาก เลยจะมาลองเล่าเล่นๆถึงระบบ Emergency Call ของ Android ไม่แน่ใจว่าเป็นเฉพาะของซัมซุงรึเปล่า

 

ปกติเวลามือถือที่มีการตั้ง Lock หน้าจอไว้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม .. มือถือจะยังคงมีปุ่มให้กดโทร Emergency Call ได้อยู่

ทางเข้าหน้า Emergency Call จาก Lock screen

ซึ่งก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ .. ในบ้านเราก็น่าจะเป็น 191

แต่บางครั้ง เราก็ไม่ได้ต้องการจะโทรหา 191 นี่นา .. (โทรไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร)

หน้านี้ กด 191 ได้ .. เข้าหน้า ICE ได้จากมุมล่างซ้าย

Android เลยมีกลุ่มของ Contacts แยกออกมาอีกอัน ชื่อว่า ICE – emergency contacts  (ICE: In case of emergency)

ซึ่งรายชื่อของคนที่อยู่ในกลุ่มนี้ จะสามารถเข้าถึงได้จากโทรศัพท์แม้กระทั่งล็อกหน้าจออยู่

เพราะฉะนั้น ถ้าจะให้ดีควรจะเอารายชื่อคนใกล้ชิดซักสองสามคนใส่ไว้ในรายชื่อนี้ เผื่อมีเหตุฉุกเฉินจะได้ให้ใครก็ตามโทรหาได้

คล้ายๆกับเขียนชื่อ เบอร์โทรแม่ใส่กระเป๋าเสื้อไว้ตอนเด็กๆเลย (ถ้าคนที่เจอใช้เป็นนะ)

หน้านี้ก็โทรหาใครก็ได้ใน List

ส่วนถ้าเราไปเจอโทรศัพท์ใครเข้า .. ก็ลองดูว่าโทรหาใครใน Emergency Contact ได้รึเปล่า .. จะได้คืนได้

 

 

 

ท่าไม้ตายสำหรับกู้ชีพ Galaxy S

จริงๆเคยตั้งใจไว้ว่าจะไม่เขียนเรื่องเกี่ยวกับการ Upgrade ROM โทรศัพท์มือถือซักเท่าไหร่ เพราะว่า ROM มันอัพเดทถี่มาก สิ่งที่เราเขียนไว้ก็จะอายุสั้นตามไปด้วย วิธีหนึ่งๆอาจจะใช้ได้แค่ช่วงเวลาสามสี่เดือนเท่านั้นเอง แต่วิธีที่จะเขียนอันนี้ ถือว่าเป็นท่าไม้ตายเก็บไว้ละกัน เพราะหลังจากลงรอมนู่นนี่ แล้วมีปัญหาบูตไม่ขึ้น Apply .zip กี่ตัวก็ไม่หาย … วิธีสุดท้ายที่ควรลองคือ ทำอันนี้

หมายเหตุ ทั้งหมดนี่คือวิธีที่ทำกับ Samsung Galaxy S แล้วได้ผล .. ส่วนรุ่นย่อยที่คล้ายกันอาจจะต้องหาข้อมูลอย่างอื่นประกอบด้วยนะครับและข้อมูลการตั้งค่าทั้งหมดหายเกลี้ยง … แต่พวกรูปถ่ายและไฟล์เพลงต่างๆยังอยู่ครบ

 

มาดูวิธีกัน

1. เช็คว่าเข้า Download Mode ได้ (สามปุ่ม Home + Power + Volume Down)

2. เข้าไป Download DarkyROM 10.2 Resurrection GT-I9000 พร้อมวิธีที่นี่ http://www.darkyrom.com/community/index.php?threads/odin-darkyrom-10-2-resurrection-gt-i9000.4272/ หรือถ้าขี้เกียจอ่านก็ Direct Link ที่นี่ http://www.multiupload.com/XWD2GIFMMM แล้วทำตาม step ข้างล่าง

 

ขออธิบายเพิ่มนิดนึงว่า พักหลังๆเนี่ย การอัพเกรดรอมของ Galaxy S ก้าวหน้าไปมาก .. ทุกวันนี้แค่เอาไฟล์รอม ที่เป็น .zip ไปวางใน Internal SD Card ของเครื่อง แล้วเข้า CWM (Clock Work Mod) เสร็จแล้วก็สั่ง Apply .zip ก็เป็นอันเสร็จสิ้น ซึ่งพอมีปัญหาเนี่ย บางทีไฟล์มันปนๆกันไปหมดแล้ว เราก็แก้ด้วยการเอาไฟล์ชุดใหม่ใสกิ้งๆลงไปทับเลย (เหมือนเอา Ghost ของ windows ไปใช้อะไรประมาณนั้น)

3. พอเข้าใจประเด็นแล้ว ก็เริ่มลงตัว Darky 10.2 RE เลย ตัวนี้จะลงผ่าน Odin .. ซึ่งในไฟล์ที่ Download มานั้น เค้าก็เอาตัว Odin มาให้เสร็จเลย

4. เริ่มจากควรปิด Kies ก่อน (ถ้ามีรันอยู่) อาจจะดูทั้งที่ Tray icon หรือว่าเข้าไปดู Task manager หาอะไรที่มีคำว่า Kies ก็ kill ทิ้งให้หมด

5. Unzip ไฟล์รอม 10.2 RE แล้วก็เปิด Odin ที่อยู่ข้างใน

6. ติ๊ก Repartition เลือก PIT ไฟล์ เลือก PDA ไฟล์ ..

7. เข้า Download Mode ในโทรศัพท์ (หน้าจอต้องเป็น สามเหลี่ยมเหลืองๆเกือบเต็มจอ)

8. เสียบสายเข้าคอม จะเห็นว่ามี Port Comxx เป็นสีเหลืองๆใน Odin

9. กด Start ..  (ถ้า step มันไปข้างที่ setup connection แปลว่า odin คุยกะโทรศัพท์ไม่รู้เรื่อง ลอง search ในเน็ตดู ไม่ต้องตกใจ)

10. พอทำเสร็จโทรศัพท์จะ restart … แล้วใช้เวลาพักใหญ่ก็น่าจะบูตขึ้น

11. พอบูตขึ้นแล้วคราวนี้ก็มีสองทางเลือกคือ อัพเกรดเป็น Darky Rom เวอร์ชันล่าสุด ก็หาอ่านเอาจากเว็บ Darky เลย

หรือ ถ้าอยากไป Rom อื่น ก็ก๊อบไฟล์ .zip เข้าเครื่อง แล้วเข้า Recovery เข้าไป Apply .zip ก็เป็นอันจบ (ส่วนตัว ณ วันนี้ขอแนะนำ OneCosmic)

 

 

.. วิธีนี้ใช้คืนชีพ Galaxy S มาแล้วสองเครื่อง คิดว่าน่าจะทำได้เหมือนกันๆ .. หรือถ้าไม่อยากลงตัวนี้ ก็ไปหารอมตัวอื่นที่ลงกับ odin น่าจะแก้ได้เหมือนกัน เพราะมันเป็น image file เอามาทับเลย ..

.. อาจจะเขียนห้วนๆไปนิด ยังไงใครทำตามแล้วสงสัยอะไร ลองโพสต์ถามมานะคับ

 

Hope it can help ~~~~~

 

Scroll to top