สลับภาษาคีย์บอร์ดบน Windows ด้วย Caps Lock

เรื่องที่คิดว่าไม่น่าจะเกิดก็เกิดขึ้นแล้ว … ก็คือตอนนี้ย้ายมาทำงานที่ใหม่ที่ต้องใช้ Mac เป็นหลัก

ทุกอย่างก็ดำเนินไปได้ด้วยดี เพราะส่วนใหญ่แล้วเราก็ใช้ Web based application กันหมดแล้ว (เค้ายังใช้คำนี้กันมั๊ยนะ) … ตัวแอพอื่นๆบนเครื่องก็ไม่ได้มีปัญหามากนัก เดี๋ยวจะทยอยมาเล่าเรื่องแอพที่ใช้บนแมค จากคนที่ข้ามมาจาก Windows / Surface อีกทีนึง (อีกทีตลอดๆ)

อ่ะ กลับมาเข้าเรื่อง

ปัญหาที่เจอกับตัวเองคือ บน Windows นั้น ทุกวันนี้ใช้ Alt + Shift ในการเปลี่ยนภาษา ด้วยเหตุผลหลักๆสองข้อคือ

  1. มันเป็นค่าเริ่มต้น ไปจับ Windows ไหนๆ เปลี่ยนภาษาด้วยวิธีนี้ก็น่าจะเวิร์ค (ไม่ก็ใช้ Win + Space bar แต่รู้สึกว่านิ้วพันกัน)
  2. ตัว Grave Accent ( ` ) ที่เรานิยมใช้ในสมัยก่อนนั้น ทุกวันนี้เราใช้ตัวนี้มากขึ้นมาก ในการเขียน blog/wiki ด้วยภาษา markdown

ปัญหาก็เลยเกิด เมื่อ Alt + Shift จาก Windows ไปเจอกับปุ่มเปลี่ยนภาษาบน Mac ที่ใช้ Caps Lock

ความจำกัดบน Windows คือ Windows นั้น (แม้จะเป็น Windows 11 แล้วก็ตาม) ให้เลือกปุ่มเปลี่ยนภาษาได้จำกัดมาก เลยต้องหาทางแก้ด้วยทางอื่น เมื่อตัว OS ทำไม่ได้

Review : Surface Pro 4

หลังจากรอมาประมาณสามเดือน ในที่สุดก็ได้เครื่องมาซักที รวมถึงได้เขียนบล็อกซักทีด้วย …

เข้าประเด็นเลยละกัน ..  เริ่มจากเมื่อกลางๆปีที่แล้ว มองหาคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ มาแทนเจ้า ThinkPad X201i ที่ไม่ค่อยจะทำไรได้แล้ว เนื่องจากแรมแค่ 4 GB กับ CPU ที่เป็นตัวรุ่นประหยัดไฟ เลยทำให้ทำงานหนักๆไม่ค่อยไหว

ต้องเล่าก่อนว่าตอนซื้อตัว x201i นี่โจทย์หลักๆคือต้องพกพาไปไหนสะดวก ไม่หนักจนเกินไป ซึ่งมันก็ตอบโจทย์ได้ดี

ซึ่งพอถึงเวลาที่ต้องหาเครื่องถัดมา ก็มีโจทย์เพิ่มขึ้นมาว่า พกพาได้เหมือนเดิมก็ดีนะ แต่ขอเพิ่มเติมว่า ต้องการพลัง cpu และ ram ในระดับที่สามารถทำงานเขียนโปรแกรมได้แบบลื่นๆด้วย ตัวเลือกเลยเหลือไม่เยอะ … แถมพ่วงด้วยราคากระฉูดทั้งนั้น

สุดท้ายเลยมาจบที่ Surface Pro 4 ตัว Core i7 มาพร้อมกับแรม 16 GB และ SSD 256 (ที่ดูเหมือนจะน้อยไปนิด) พ่วงด้วย Type Cover แบบมี Finger print และ Docking ที่จะใช้กับ หน้าจอ Dell 23″ ที่ซื้อมารอไว้(และอีกอันที่ยังไม่ได้ซื้อ) … เป็นอันว่าจบเรื่องคอมไปอีกอย่างน้อยก็สามสี่ปี

จริงๆตัว Surface ตัวนี้มีจุดที่ไม่ค่อยชอบสองอย่าง คือ ไม่มี WWAN (หรือ 3G) ที่ตัว x201i สามารถใส่ซิมการ์ดในตัวเครื่องแล้วใช้งาน 3G ได้เลย ยุคนี้มันควรจะมีได้แล้ว อีกเรื่องคือ port ที่ต่อออกจอเป็ร Mini DisplayPort ที่ทำเอายุ่งขึ้นเล็กน้อย ตรงที่ไม่แถมสายมาให้ และก็ไม่มีหน้าจอยี่ห้อไหนแถมสายแบบนี้มีให้ เรื่องที่สามที่ขอแอบพ่วงมาคือ ราคา … ตัว SSD 512 นี่แพงเกิ๊น ทำใจไม่ได้

SurfacePro4Review-001

มาดูกัน …

Windows: Screen Recording Tool

เขียนแต่ Android ติดกันมานาน วันนี้เลยกลับมาที่ Windows ซะหน่อย พอดีว่าเพิ่งส่งเมลแนะนำเครื่องจับภาพหน้าจอเป็นวิดีโอตัวนี้ให้ทีมที่ทำงานไป ไหนๆเขียนแล้วก็เลยขอเอามาลงบล็อกด้วยเลยละกัน

 

พอทำงานไป หลายๆครั้งจะพบว่าแค่จับภาพนิ่งบนหน้าจอมันไม่พอ ส่วนถ้าเป็นวิดีโอตัวดีๆหน่อยก็แพง (เช่น Camtasia) จนมาเจอตัวนี้นี่แหล่ะ Microsoft Expression Encoder 4 ซึ่งตัวฟรีสามารถบันทึกหน้าจอได้สูงสุดที่ 10 นาที (ซึ่งก็เกินพอแล้ว) ..

 

ลองมาดูวิธีการคร่าวๆกันซักหน่อย พอบางหน้าจอมันดูซับซ้อนอยู่พอสมควร

อันดับแรกก็โหลดโปรแกรมมาติดตัวกันก่อน โดยโหลดได้ที่นี่ http://www.microsoft.com/en-us/download/confirmation.aspx?id=27870 ซึ่งจะรวม SP2 เข้าไปด้วย

พอลงโปรแกรมเสร็จก็ทำตามนี้

– เริ่มจากเปิดโปรแกรม Microsoft Expression Encoder 4 Screen Capture ขึ้นมา

– เลือกฟังก์ชันเสริมได้ เช่น อันเสียงไปด้วย หรือว่าเพิ่มภาพจากเว็บแคม ..

– เริ่มอัดโดยกดปุ่มอัด (จุดแดงๆ) โดยหลังบางครั้งถ้าเรา Capture ทั้งหน้าจอ ตัว Toolbar จะหายไป อาจจะต้องใช้ Shortcut ช่วยแทน คือ กด Ctrl + Shift + F11 เพื่อหยุดชั่วคราว และ กด Ctrl + Shift + F12 เพื่อเสร็จสิ้นการจับภาพหน้าจอ

– เมื่อจับวิดีโอหน้าจอจนหนำแก่ใจแล้ว จะได้ไฟล์นามสกุล .xesc มาหนึ่งไฟล์ .. ซึ่งยังใช้งานไม่ได้

– สิ่งที่ต้องทำคือ เลือกไฟล์ที่เพิ่งได้มา แล้วกดปุ่ม Send to Encoder

– โปรแกรม Microsoft Expression Encoder จะเปิดขึ้นมา .. หน้าตาซับซ้อนพอสมควร แต่ไม่ต้องสนใจอะไรมาก

– กดปุ่ม encode ด้านล่าง แล้วมันจะเริ่มทำการ Encode เป็นวิดีโอ

– โดยเมือเสร็จแล้ว จะได้ไฟล์วิดีโอมาอยู่ที่ C:\Users\{User name}\Documents\Expression\Expression Encoder\Output

 

อย่างที่บอกว่า เวอร์ชันฟรี จับหน้าจอได้สูงสุด 10 นาที รวมทั้งไฟล์ที่ได้ยังเป็นแบบ wma เท่านั้น ถ้าต้องการ Video format อื่นๆอาจจะต้องจ่ายเงินซื้อ

 

จริงๆตัว Expression Encoder มันทำอะไรได้หลายอย่างเลยนะ เหมือนจะทำ Live Broadcast ได้ด้วย ใครลองเล่นแล้วมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะ

 

Scroll to top