หรือว่าเว็บในเครือ NetDesign จะถูกแฮค ?

เช้านี้ผมตื่นมาเช็คเมลตามปกติ ..  เจอแสปมเมลตามปกติ … แต่พักหลังชอลเล่นกับพวกแสปมเมล เพื่อดูว่าวิวัฒนาการของด้านมืดว่าไปถึงไหนกันแล้ว

 

ซึ่งวันนี้ก็ได้รับแสปมเมลที่เลียนแบบหน้าตาเมลของ Facebook (ซึ่งก็ได้เป็นปกติอีกนั่นแหล่ะ)

แต่ที่น่าแปลกใจคือลิงค์ของเมลอันนี้หยายามพาไปเว็บไซต์ http://nd.co.th/beecham.html ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นเว็บในบ้านเรา

ตอนแรกผมก็ประณามเต็มที่ เพราะคิดว่าเว็บบ้านเราต้องทำฟิชชิง (phishing) แบบนี้แล้วหรือ .. มันแย่มาก

แต่พอได้ลองเข้าเว็บ http://nd.co.th ไปดูจริงๆ ก็พบกว่าเว็บนี้เป็นเว็บในเครืองของ NetDesign บ.ที่สร้างชื่อจากการเปิดโรงเรียนสอนคอมพิวเตอร์ (คนอื่นอาจจะรู้จักมาก่อน แต่ผมรู้จักมันเพราะสอนคอมฯนี่แหล่ะ) ซึ่งในเว็บก็ดูโอเคทุกอย่าง

เลยทำให้เปลี่ยนความคิดว่า หรือว่าเว็บนี้อาจจะโดน Hack เพื่อทำ phishing หลอกไปที่อื่น ?  .. เลยลองกดตามลิงค์ในเมล ก็พบว่า

มันถูกส่งต่อไปยังเว็บ http://pillpillspharmacy.net/ ซึ่งเป็นเว็บขายยาอีกที

สุดท้ายก็สรุปไม่ได้ว่า เว็บนี้ตั้งใจทำแบบนี้หรือไม่ (แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะโดนแฮคล่ะ) … ถ้าโดนแฮคจริงก็คงต้องรอเค้าแก้กันต่อไป

อันนี้ก็คงเป็นสิ่งเตือนใจว่า ในฐานะคนเล่นเน็ต จะคลิกอะไรก็ดูให้ดีๆก่อน เพราะเกิดหน้าที่ส่งต่อไปทำเนียนเป็นหน้า Facebook หรือว่าปล่อยไวรัสก็สยองอยู่ ส่วนในฐานะคนทำเว็บ ก็ต้องดูให้ดีว่าเว็บเราไม่ได้เป็นเครื่องมือให้ใครเอาไปทำอะไรไม่ดีได้

 

ปล. ก่อนคลิกลิงค์นี้ Hotmail ก็มีเตือนว่าลิงค์ที่เรากดนั้นอาจจะมีอันตรายได้ .. แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเราก็คลิกอยู่ดี 😛

eService บริการดีๆจาก AIS แต่อาจจะไม่ดีสำหรับเรา ?

 

ขอเกริ่นก่อน สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้บริการ eService ของ AIS

 

eService เป็นบริการออนไลน์จาก AIS สามารถเข้าใช้งานได้ที่ http://www.ais.co.th/eservice สามารถใช้งานได้ทั้งแบบรายเดือนและเติมเงิน (แยกระบบกัน)

 

eService สามารถทำงานได้เกือบทุกอย่างที่ศูนย์ AIS จะทำได้ ตั้งแต่ เปลี่ยนโปรโมชัน ดูการใบแจ้งค่าบริการย้อนหลัง ชำระค่าบริการ ดูสถิติของการใช้งาน โหลดริงโทน (ลิงค์ไปอีกเว็บ) ถือว่าเป็นบริการที่นำสมัยมาก ถึงขนาดภูมิใจที่ได้ใช้ AIS เลยทีเดียว

 

แถมการใช้งานไม่ต้องจำรหัสผ่าน ระบบจะทำการส่ง one time password เข้ามาที่มือถือ (ผ่าน SMS)  ซึ่งมีอายุ 15 นาที และใช้งานได้ครั้งเดียว ถือว่าปลอดภัยมาก

 

 

แต่เดี๋ยวก่อน .. เช้าวันนี้ ผมเข้าใช้งาน eService เพื่อดูใบแจ้งค่าบริการอย่างที่ทำเป็นปกติ ซึ่งปกติใช้งานเสร้จผมก็ปิดหน้าจอไปเลย แต่วันนี้อะไรดลใจให้กด logout ก็ไม่ทราบ

 

สิ่งที่เจอหลังกด logout ก็คือมีหน้าแบบสำรวจการใช้บริการขึ้นมา .. ก็เป็นปกติ เป็น Feedback Control ที่ดี ถ้าไม่เหลือบไปเห็น URL ของหน้าแบบสำรวจอันนั้นก็คงไม่เห็นครับ ว่า URL หน้าแบบสำรวจอันนั้นมีทั้งชื่อจริง นามสกุลจริง เบอร์โทร และอีเมลของผมครบเลย …

และด้วยเหตุนี้ กว่า request ของเราจะไปถึง Server ก็ต้องผ่านการ Log มากมาย ซึ่งพอข้อมูลของเราทั้งหมดไปอยู่ที่ URL มันก็จะถูกเก็บ Log ไปด้วย เพียงแค่นี้ ใครๆเค้าก็เห็นชื่อจริง เบอร์โทร พร้อมอีเมลของเราง่ายๆ เพียงเพราะ AIS ต้องการสำรวจความเห็นของเราเนี่ยนะครับ !!!

นี่ยังไม่รวมถึงการทำแบบสำรวจที่เก็บข้อมูลรายละเอียดของเราโดยไม่บอกกล่าวนะคับ …

นี่คือ URL ที่ว่าครับ http://activities.ais.co.th/app/eserviceq3/gsm/index.aspx?mobile=XXX&name=YYY&email=ZZZ ซึ่ง XXX, YYY, ZZZ คืิอ เบอร์โทร ชื่อ และอีเมลผมตามลำดับ

ผมถือว่าคราวนี้ Security ของเว็บ AIS ผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยเลยครับ

 

SET Holidays for Google Calendar

วันนี้ดูปฏิทินเพื่อวางแผนลาพักร้อน แต่ปฏิทิน Thai Holidays มันใช้จริงไม่ค่อยได้ เพราะว่า วันที่ใน Thai Holidays นั้นเป็นวันหยุดจริงๆ ซึ่งแน่นอนว่าเราอาจจะไม่ได้หยุดตามนั้น แถมถ้าเป็นตลาดหลักทรัพย์ (SET) เองก็อาจจะไม่ได้หยุดตามวันหยุดราชการอีกต่างหาก สุดท้ายเลยเข้าสู่สำนวนที่ว่า อยากได้ต้องทำเอง


และด้วยความอารมณ์ดี เลยสร้าง Public Calendar ไว้บน Google Calendar เพื่อไว้แสดงวันหยุดของ SET ไว้ให้ดูง่ายๆ มี 3 Format ดังนี้

: http://www.google.com/calendar/feeds/r3cakij8p6nmj2al9jda0l3neg%40group.calendar.google.com/public/basic

: http://www.google.com/calendar/ical/r3cakij8p6nmj2al9jda0l3neg%40group.calendar.google.com/public/basic.ics

: http://www.google.com/calendar/embed?src=r3cakij8p6nmj2al9jda0l3neg%40group.calendar.google.com&ctz=Asia/Bangkok

(Calendar ID: [email protected])


ส่วนวิธีการนำไปใช้ ก็ตามด้านล่างนี้


การ Import Calendar สำหรับ Google Calendar

1. เปิด Google Calendar (เออ มันคงจะเข้า Hotmail หรอกเนอะ)

2. ด้านซ้ายของหน้าจอจะมีส่วนที่เรียกว่า Other Calendars และจะมีปุ่ม Add อยู่ด้านล่างซ้าย เริ่มกดปุ่ม Add ช้าๆ จะเห็นเมนูย่อยโผล่มา ให้เลือก Add by URL

Google-Calendar-Original

3. เมื่อมีหน้าต่างโผล่มาให้ใส่ URL ว่า http://www.google.com/calendar/ical/r3cakij8p6nmj2al9jda0l3neg%40group.calendar.google.com/public/basic.ics

Google-Calendar-Add-URL

4. กดปุ่ม Add Calendar

5. สำเร็จ !! แค่นี้ก็จะได้ปฏิทินวันหยุดของตลาดหลักทรัยพ์ไปอยู่คู่กับ Calendar ส่วนตัวของคุณแล้ว

Google-Calendar-Added-SET-Holidays

– การทำวิธีนี้สามารถใช้ได้กับ ปฏิทินของเพื่อนด้วยโดยเลือกเมนูย่อยเป็น Add a freind’s Calendar

– สามารถเลือกปฏิทินที่ทาง Google ทำไว้ให้ได้ด้วยเช่นกัน เช่นวันหยุดของประเทศไทย (Thai Holidays) โดยเลือกในเมนูย่อย Browse Interesting Calendars แล้วจะมี Thai Holidays มาให้เลือก

– ก่อนไปสู่ขั้นตอนของ Live Calendar มี  40 Tips สำหรับ Google Calendar มาฝากด้วย ที่นี่ >> http://broncobytes.boisestate.edu/2009/05/20/40-quick-tips-for-using-google-calendar/



การ Import Calendar สำหรับ Windows Live Calendar

1. เข้า calendar.live.com

2. ตรง Tools Bar ด้านบนให้เลือก Subscribe

Live-Calendar-Subscribe

3. หน้า Subscribe เลือก Check Box ที่บอกว่า Subscribe to a public calendar

4. ใส่ URLs http://www.google.com/calendar/ical/r3cakij8p6nmj2al9jda0l3neg%40group.calendar.google.com/public/basic.ics

5. เลือกสี

Live-Calendar-Add-Subscribe

6. กดปุ่ม subscribe to calendar ก็เป็นอันสำเร็จ


สุดท้ายใครที่ยังไม่ได้ใช้ Google Calendar หรือ Live Calendar ก็หันมาใช้ได้แล้ว ฮ่าๆๆ


[ad#inline-1]

All Post One Avatar

กลับมาอีกแล้ว ^^ ช่วงนี้มีอารมณ์เขียนอะไรเกี่ยวกับ IT เยอะหน่อยอาจจะเป็นเพราะจากการดูสถิติเริ่มพบว่ามี Reference จาก Search Engine อยู่พอสมควร ทำให้เกิดความรู้สึกที่ว่าการเป็นแหล่งความรู้ให้คนอื่นมันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งถ้าวิธีหรือความรู้ของเราสามารถแก้ปัญหาของเค้าได้สำเร็จจะยิ่งยินดีมาก เสียดายว่าตอนนี้ยังไม่มีระบบ Tracking ว่า ผลลัพธ์จากการ Search แต่ละอันช่วยแก้ไขปัญหาหรือให้คำตอบกับผู้ค้นหาได้ตรงเพียงใด ส่วนเรื่อง SEO นี่ยังไม่ได้จริงจังมาก เพราะลึกๆยังเชื่อว่า คุณค่าจะเกิดจากตัวข้อมูลเอง ถ้า Content ดี มีประโยชน์ยังไงก็ต้องมีคนเข้ามา


วันนี้จะมาพูดกันถึงเรื่อง Avatar ซึ่งเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า ทำไมบาง Comment ของ WordPress จึงมีรูปด้วย ?

Avatar คืออะไร … คำนี้ต่อให้เป็นคน IT เอง(อย่างเรา) บางครั้งก็ยังให้ความหมายตรงๆไม่ได้ วันนี้เราจะมาพูดเรื่องนี้กัน

Avatar ตามความหมายจาก Wiki Pedia (as of 27/07/2009) บอกไว้ว่า

An avatar is a computer user's representation of himself/herself or alter ego,
whether in the form of a three-dimensional model used in computer games,
[1] a two-dimensional icon (picture) used on Internet forums and other
communities,[2][3] or a text construct found on early systems
such as MUDs.It is an “object” representing the embodiment of the user.
The term "avatar" can also refer to the personality connected with
the screen name,or handle, of an Internet user.[4]


ข้างบนอาจจะยาวไปบางคนขี้เกียจอ่าน เอาง่ายๆก็คือเป็นรูปภาพที่เราใช้แทนตัวเองในเกมส์ หรือการแสดงความคิดเห็นตาม Forum ต่างๆที่จะปรากฏใกล้ๆกับชื่อ User ของเรา ส่วนใหญ่ที่หลายๆคนใช้ก็จะเป็นรูปตัวเอง รูปดารา รูปตัวการ์ตูนน่ารักๆ หรือรูปวาบหวิวก็มีบ้าง แล้วแต่สังคมนั้นๆไป ซึ่งอันหลังนี่แหล่ะที่เราจะพูดถึงกัน เพราะปัจจุบันนี้การแสดงความเห็นตาม Forum/Blog ต่างๆต้องมีการสมัครสมาชิกกันซะส่วนใหญ่ และสมาชิกก็มีสิทธิ์ที่จะอัพโหลดรูปเพื่อแสดงความน่ารักของตัวเองออกมา แต่ลองคิดเล่นๆว่าถ้าเราสิงห์สถิตอนยู่ซัก 10 Forums ไหนจะตาม Blog เพื่อนๆอีกซัก 20 ที่ แน่นอน Avatar เราต้องมีเป็นล้าน (เวอร์ไว้ก่อนอ่ะ) ถ้าเราทำให้มันเหลือ Avatar ที่เดียวแล้วเราสามารถเอามันไปใช้ได้เกือบทุกที่เลยก็คงจะดีไม่น้อย และแน่นอนตอนนี้ก็มีบริการแบบนี้อยู่แล้ว ซึ่งก็คือ


Gravatar.Com เป็นเว็บสำหรับสร้าง Avatar และสามารถนำไปใช้กับเว็บต่างๆที่รองรับได้

Gravatar

เพียงแค่เราสมัคร Gravatar แล้วเมื่อเราไป Post Comment ด้วย Email ที่เราสมัครไว้ และเว็บนั้นรองรับ Gravatar เพียงเท่านนี้รูปของคุณก็ปรากฏให้เห็นเป็นสง่า ^_^ โดยสามารถตรวจสอบ รายชื่อ Web Software ที่รองรับ ซึ่งจะเห็นว่ารองรับ CMS และ Blog Engine ไว้หลายตัวเลยทีเดียว รวมทั้งยังมี How to ในกรณีที่พัฒนาเว็บด้วยตัวเองและอยากทำให้ร้องนับ Gravatar ได้ด้วย และยิ่งกว่านั้นคือ WordPress ได้ Built-in Gravatar Plugin ตั้งแต่เวอร์ชัน 2.5 เป็นต้นไป

อีก Feature ที่สำคัญคือในส่วนจัดการของ Gravatar เองเราสามารถเพิ่ม Email Address และเพิ่มรูปเพื่อเก็บไว้ใช้ได้ด้วย


ว่าแล้วก็ลองไปสมัครกันดูนะ .. http://en.gravatar.com/site/signup/


ปล. เกริ่นยาวกว่าเนื้อหาจริงๆอีก – -“

ปล2. เริ่มอึดอัดกับ font ของ Theme นี้รู้สึกว่ามันไม่เหมาะกับภาษาไทยเอาซะเลย

 


Reference :

http://codex.wordpress.org/Using_Gravatars

http://en.gravatar.com/site/implement

Buxfer: Track Your Money

กลับมาอีกแล้วสำหรับช่วงแนะนำสิ้นค้า วันนี้เราขอนำเสนอออออ …. เว็บที่ทำให้การจัดการการเงินของคุณง่ายดายด้วยเพียงปลายนิ้ว เพียงแค่คุณมี หน้าจอ คีย์บอร์ด เมาส์ ซีพียู อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ไฟฟ้า แอร์ ภาษาอังกฤษ เงินเดือน ความจำ แค่นี้(เอง) คุณก็สามารถจัดการกับมันได้แล้ว

 

ซึ่งคราวนี้ถึงคิวของ Personal Financial Management Software โอ้ว … เท่เป็นบ้าเลย พูดให้เข้าใจง่ายๆคือตัวช่วยจัดการการเงินของรา (เข้าใจง่ายขึ้นตรงไหนเนี่ย) หรือการทำบัญชีนั่นเองฮ่าๆๆ หลายๆคนคงเคยพยายามจะจดค่าใช้จ่าย หรือพยายามทำบัญชีมาหลายครั้งหลายครา แต่สุดท้ายก็เขียนอยู่ได้สามสี่วันก็เลิกไป เพราะไม่ได้มานั้งเปิดมันเขียนทุกวัน กลับมาถึงบ้านก็เหนื่อย ผ่านไปสี่ซ้าห้าวันพอจะมาเขียนอีกทีก็จำไม่ได้แล้วว่าจ่ายอะไรไปบ้าง เป็นงี้อยู่หลายรอบเลย (มันก็เป็นข้ออ้างทั้งนั้นแหล่ะ :P)

 

แต่คราวนี้เรามาลองใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ดูมั่ง โดยลองทำมันบนเว็บดูบ้าง อย่างน้อยมาถึงที่ทำงานตอนเช้าๆ ขณะเปิดอ่านข่าวหรือเปิดเว็บประจำตอนกินกาแฟ เราก็เพิ่มเว็บนี้ไปอีกเว็บนึงเพื่อกรอกรายละเอียดที่จ่ายไปนิดๆหน่อยๆก็คงไม่ลำบากเกินไป แถมสิ้นเดือนยังสามารถสรุปค่าใช้จ่ายพลอตเป็นกราฟให้เราดูแก้เซ็งได้ด้วย เดี๋ยวความสามารถเราจะมาไล่ดูกันทีละอันละกัน

 

เว็บที่แนะนำวันนี้คือ http://www.buxfer.com

Scroll to top