เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น รอบนี้ต่างจากรอบก่อนๆคือพาลูกไปด้วย (จริงๆควรเขียนเรื่อง New Zealand ด้วย ที่เป็นทริปต่างประเทศอันแรก แต่ขอดองไว้ก่อน)
รอบไปนี้ไป Osaka (โอซากา) แค่เมืองเดียวเลย พักที่เดียวยาวๆ จะได้ไม่ต้องลำบากย้ายที่ โดยเฉพาะการพาลูกไปด้วย สรุปสั้นๆเก็บไว้อ่านหน่อยนึง

เข้า/ออกสนามบิน
- นั่งเครื่องบินไปลงโอซากา (KIX) แถวตม.คือยาวมาก (ชั่วโมงกว่าๆ เฉพาะต่อแถวตม.) ควรลงทะเบียนเว็บ Visit Japan ไปให้เรียบร้อย เพื่อผ่านตม.ง่ายหน่อย แบบไม่ต้องไปกรอกกระดาษหน้างาน
- ขาออกจากสนามบินมีสองสามทางเลือก ถ้าเลือกรถไฟ ตอนซื้อตั๋วอาจจะต้องดูดีๆ เพราะขบวนด่วนพิเศษก็ต้องซื้อตั๋วด่วนพิเศษ (Rapid express) ซื้อผิดก็อาจจะได้รถหวานเย็น (Express ธรรมดา) ที่จอดเยอะกว่าหน่อย ช้ากว่าซัก 15-20 นาที จริงๆรถไฟก็มีสองอันอีกคือ JR หรือ Nankai
- อีกทางเลือกคือ Airport Limousine Bus ที่สะดวกเหมือนกัน ไปถึงใกล้ที่พักเลยด้วย (แถว Namba) แต่น่าเสียดายว่ารถหมดแค่ 2 ทุ่มครึ่ง กว่าจะผ่านตม.ออกมาได้ก็ไม่ทันแล้ว
- ถ้าถือบัตร IC (Suica / ICOCA) ไปก่อนได้ ชีวิตก็จะง่ายขึ้นหน่อยนึง เพราะซื้อตั๋วรถไฟที่ตู้ได้เลย
- ขากลับมาขึ้นเครื่องบิน รอบนี้ใช้ Airport Limousine Bus ขึ้นที่ Osaka City Air Terminal (OCAT) ซื้อตั๋วก่อนขึ้นได้เลยที่ชั้น 2 ผู้ใหญ่ 1300 เยน เด็กจำไม่ได้ เพราะไม่ได้ซื้อ ตั๋วขายผ่านเครื่อง ที่รับแค่เหรียญกับแบงค์เท่านั้น ตอนขึ้นรถคนขับจะถาม Terminal แล้วติด Tag กระเป๋า (ระบุ Terminal) ให้ แล้วเก็บใต้ท้องรถ สบายกว่าไปต่อรถไฟเยอะเลย นอนๆมาเกือบชม.ก็ถึงเลย

ที่พัก
รอบนี้ลอง Airbnb ดู เพราะว่าได้ห้องพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า เทียบกับราคา น่าจะทำให้เปิดกระเป๋า รวมถึงจัดการกับเจ้าเด็กได้ง่ายขึ้น ห้องที่พักมีแยกห้องอาบน้ำกับห้องส้วมด้วย ก็ดีไปอีกแบบ มีครัวเล็กๆให้ด้วย (แน่นอนว่าไม่ได้ใช้) มีตู้เย็น ครบถ้วน อยู่ชั้น 2 เข้าออกง่ายหน่อย แลกมากกับการที่ไม่ได้มี House keeping ทำความสะอาดทุกวันเหมือนโรงแรม
ตึกที่พักมี 5 ชั้น (ชั้นละห้อง) แต่ก็มีลิฟท์ ซึ่งมันดีมากๆ พอเป็น Airbnb เลยมีเครื่องดูดฝุ่นให้ด้วย ถูกใจเด็กมาก
เดินทาง / ท่องเที่ยว
การเดินทางส่วนใหญ่ก็ยังเป็นรถไฟ มีเด็กอายุไม่ถึงสามขวบก็ฟรีตลอดงานเช่นกัน ส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นจะตัด Infant ที่ 3 ขวบ คือก่อนสามขวบฟรีหมด ถ้าไม่ได้ต้องมีที่นั่งของตัวเอง แรกๆอุ้มเด็กเดินผ่านประตูสถานีรถไฟ หลังๆพบว่าเด็กเดินเองก็ผ่านได้ การเดินทางนี่ IC card ใบเดียวตลอดงาน จบทั้งการเดินทางและเข้า convenience store ตู้กดน้ำหลายๆตู้ก็รองรับแล้วเรียกได้ว่าเหมือน PromtPay บ้านเราที่ใช้ได้เกือบทุกที่
มีวันนึงที่จอง One day trip เดินทางโดยรถบัส เด็กก่อนสามขวบก็ฟรีเช่นกัน แต่เราก็เลือกจองที่ไป (ราคาเด็ก) เพราะคิดว่าเค้ามีที่นั่งเองก็น่าจะนั่งสบายกว่า (สบายเรากว่าด้วย)
รอบนี้มีนั่งแท็กซี่ด้วย แต่เตรียมตัวไปประมาณนึง ลงแอพ Go taxi (พร้อมลงทะเบียน)ไปล่วงหน้า เลยสะดวกเลย ใช้งานเหมือน Grab ปักหมุด ต้นทาง/ปลายทาง รอขึ้นรถได้เลย แต่ก็จะตามสไตล์ญี่ปุ่นคือ คนขับจะถามหา confirmation number เสมอ เพื่อให้ชัวร์ว่าเราขึ้นรถถูกคัน ใช้งานผ่าน App ไปสองครั้ง โอเคเลย จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต (ที่ไม่ใช่ Travel card) ค่าใช้จ่ายคือตามมิเตอร์ และเพิ่มอีก 500 เยน (400 ค่าค่าไปรับ อีก 100 คือค่าใช้งานแอพ) ก็แฟร์ดี แต่สองรอบที่นั่งเป็นรถแท็กซี่มารับหมดเลย ไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นพวก ride sharing จะเป็นยังไง
อีกอันที่สมัครไว้คือ LUUP ที่เอาไว้ใช้เช่าจักรยาน/scooter เอาไว้ขับใกล้ๆ ดูน่าสนุกดี วิธีสมัครก็ไม่ยาก กรอกบัตรเครดิต / verify passport แล้วก็ทำข้อสอบง่ายๆหน่อยนึง แต่ยังไม่ได้ลองขี่เลยจริงๆด้วยโอกาสไม่เอื้ออำนวย
Aquarium
Osaka Aquarium Kaiyukan เหมือนเป็นอันนึงที่ทุกคนจะไป โดยเฉพาะถ้ามีเด็ก จุดเด่นคือในแทงค์หลักมีฉลามวาฬ และปลาใหญ่ๆอีกมากมาย ซึ่งก็ควรซื้อตั๋วไปล่วงหน้า เพราะถ้าไปหน้างาน จะต้องรออย่างน้อยๆ 45 นาที (เช่น ไปถึง 15.00 ถ้าซื้อตั๋วที่เคาตอร์ก็จะได้เข้าประมาณ 15.45) แต่การซื้อตั๋วล่วงหน้าไปจากไทย ก็จะลำบากหน่อยนึง เพราะตั๋วต้องระบุเวลาเข้าเลย สิ่งที่แนะนำคือ ลงทะเบียนไปให้เรียบร้อย แล้วไปกดซื้อตั๋วเอาตอนที่จะใกล้ถึง เช่น ลงรถไฟแล้วก็กดซื้อตั๋วเลย เดินชิลๆไป 15 นาทีถึงก็ได้เข้าพอดี เว็บคือ https://webket.jp/pc/ticket/index จะจองผ่าน Klook ก็ได้ ถ้าสามารถบริหารจัดการเวลาที่แน่นอนได้
Universal Studio Japan (USJ)
สิ่งเดียวที่แนะนำคือ … ซื้อ Express Pass เท่านั้น จบจริงๆมีเกร็ดเล็กๆน้อยๆคือ …
- มีรถเข็นเด็กให้เช่า 1,100 เยน รถ wheelchair สำหรับผู้ใหญ่ 500 เยน
- หลายๆครั้งจะเปิดให้เข้าก่อนเวลา
- Super nintendo world คือคิวโหดมาก ตอนไปคือ เข้าไปถึง (ประมาณแปดโมงนิดๆ) กดคิว จะได้คิวเข้าตอน 17.30
- ป๊อบคอนอร่อย ยิ่งสายแถวยิ่งยาว
- ทุกอย่างเข้าคิวนานประมาณนึง ป๊อบคอนนี่ช่วงพีคคือมีต่อแถวครึ่งชั่วโมง
- กาแฟหายากมาก เจอ Costa อยู่ที่เดียว
- เครื่องเล่นคือคิวยาวมาก Yoshi’s Adventure คือต่อคิวชั่วโมงครึ่งเพื่อเล่น 2 นาที … ดังนั้น express เถอะครับ
อื่นๆ
- ปราสาทโอซากามีรถไฟ(ที่ไม่ได้วิ่งบนราง)ด้วย สามารถขึ้นได้ ไปส่งใกล้ปราสาทเลย สะดวกดีสำหรับคนไม่อยากเดินไกล
- IC card ใบเดียวจบทั้งการเดินทางและเข้า convenience store ตู้กดน้ำหลายๆตู้ก็รองรับแล้ว มีแอพชื่อ Balance สามารถเช็คยอดบัตร (รวมถึงประวัติการใช้งาน) ได้ด้วย
- Line Pay ไทย ไปใช้กับ Line Pay ญี่ปุ่นไม่ได้
- ญี่ปุ่นยังสูบบุหรี่หนักเหมือนเดิม
- ช่วงนี้นักท่องเที่ยวเยอะขึ้นมาก บางจุดคือเดินเบียดไหลกันไปตามน้ำ
- ร้านอาหารหลายร้านมีให้จองผ่าน Google Maps
- หลายร้านยังมี Cash only























จบ