รสชาตินั้นก็มิได้แตกต่างกันเลย
ในขณะที่การจากกันเป็นเรื่องแสนเศร้า
หากแต่ว่าถ้ามีความทรงจำที่ดีร่วมกันแล้ว
ในความเศร้านั้น….ก็จะยังคงมีความงดงามซ่อนอยู่
ไว้ให้เราได้คิดถึงกันอย่างเป็นสุข …"
uncategorized
ข้อแนะนำนี้เป็นข้อแนะนำของผม อาจไม่เหมือนคนอื่น คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้
การเลือกวิชาเลือกควรจะมองเป็น Top Down Design โดยเริ่มจาก
เราจะทำอะไรหลังจากจบแล้ว ทำงานเลย หรือ รอเรียนต่อ
เอากรณีทำงานก่อน ทำงาน จะทำงานอะไร ในตลาดแรงงานปัจจุบัน มีงานอยู่ 3 ด้านหลัก ๆ
– งานด้าน Developer หรือพวกเขียนโปรแกรม
– งานด้าน System ซึ่งได้แก่งานดูแลระบบ อาจเป็นระบบซอฟต์แวร์ หรือ ฮาร์ดแวร์ หรือ Network แต่งานในกลุ่มนี้จะไม่ต้องเขียนโปรแกรมมาก
– งานด้าน Hardware และงานอื่น ๆ
งานทางด้าน Developer
– งานในกลุ่มนี้มีตำแหน่งงานในตลาดมากที่สุด จากการคาดการณ์ของผมเอง เชื่อว่ามีไม่น้อยกว่า 60 เปอร์เซนต์ของงานทั้งหมด ดังนั้นคนที่ตั้งเป้ามาด้านนี้ จะมีงานให้เลือกเยอะแยะ ภาษาที่นิยมใช้มากที่สุด คงจะเป็น JAVA ภาษาอื่น ๆ ก็คงจะเป็นพวกเว็บ เช่น JSP, PHP, ASP ภาษา C, C++ , VB อะไรประมาณนี้ ส่วนใหญ่งานจะเป็นงานที่ต้องติดต่อ Database บริษัทที่ทำงาน จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ บริษัทที่ทำซอฟต์แวร์ขาย คือ มี Spec ที่ออกแบบมาจากบริษัทเอง ไม่ต้องไปหา Requirement จากผู้ใช้ บริษัทประเภทนี้มักรับงานจากเมืองนอก แต่ก็เห็นหลายบริษัททำโปรแกรมขายในไทย ที่เริ่มมีมากก็คือเกม ปัจจุบันมีบริษัทเขียนเกมขายอยู่หลายบริษัทเหมือนกัน อีกประเภทหนึ่ง คือ บริษัท ที่ทำซอฟต์แวร์ประเภทสั่งทำ คือ ทำตามความต้องการของลูกค้า แต่บางบริษัทใหญ่ ๆ เขาก็มีแผนกซอฟต์แวร์เอาไว้เขียนโปรแกรมไว้ใช้ในบริษัทอย่างเดียว
ถ้าคุณต้องการทำงานด้านนี้ละก้อ มีให้เลือกไม่หวาดไม่ไหวเลย แต่หากจะทำบริษัทดี ๆ ก็อาจต้องแข่งกันหน่อย
งานทางด้าน System
– งานในกลุ่มนี้มีน้อยกว่ากลุ่ม Programmer ดังนั้นจะมีงานให้เลือกน้อยกว่า และมีการแข่งขันกันมาก ลักษณะงานจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ ดูแลระบบเฉพาะทางหรือซอฟต์แวร์เฉพาะทาง เช่น SAP ซอฟต์แวร์พวกนี้จะใหญ่ แพง จึงต้องมีคนเฉพาะทางมาดูแล พวกนี้มันมีเงินเดือนเยอะ เพราะคนเก่ง ๆ หายาก แต่เวลาย้ายงาน ก็ยากเหมือนกัน เพราะมีคนที่ใช้อยู่ไม่มาก กลุ่มที่ 2 คือ ดูแลระบบปฏิบัติการ เช่น Windows, UNIX กลุ่มนี้จะมีมากที่สุด หางานได้มากที่สุด และกลุ่มที่ 3 คือ ดูแล Network กลุ่มนี้จะมีตำแหน่งงานไม่มาก ออกไปทางน้อยด้วยซ้ำ บางที่เขาเอากลุ่ม 2-3 มารวมกัน คือ ให้ดูแล 2 อย่างเลย
นอกจากจะแบ่งตามลักษณะงาน แล้วหากแบ่งตามบริษัท แล้วจะได้เป็นบริษัทที่เป็น Implementor คือ รับติดตั้งระบบ คนที่ทำงานบริษัทพวกนี้ มักจะต้องรู้หลายอย่าง เพราะเวลาไปวางระบบ แต่ละบริษัทจะมีความต้องการไม่เหมือนกัน ทำให้ต้องอ่านหนังสือมาก และมักจะต้องทำงานช่วงกลางคืน เสาร์ อาทิตย์บ่อย ๆ เพราะเป็นช่วงที่ Down ระบบได้ อีกประเภทหนึ่ง คือบริษัท User ก็คือคนที่ดูแลงานในบริษัท มักเป็นงานดูแลรักษา แก้ปัญหาเป็นส่วนใหญ่ คนทำงานกลุ่มนี้ มักไม่รู้มากหลายด้าน แต่จะรู้ลึก เพราะทำงานใกล้ชิด และแก้ปัญหาหลายอย่าง
งานฮาร์ดแวร์และงานอื่น ๆ
– งานฮาร์ดแวร์ใครว่าไม่มี อันที่จริงแล้วมีแต่มีน้อย คนที่ทำก็ต้องใจรักหน่อย งานด้านอื่น ๆ ก็คือ งานวิจัย หลาย ๆ ที่เขาก็มีการรับนักวิจัย อีกด้านที่จัดเป็นงานอื่น ๆ ด้วยก็คือเป็นอาจารย์ไงครับ
เอาละ เมื่อยมือแล้ว ขอจบภาคแรกก่อนก็แล้วกัน แล้วค่อยมาเขียนต่อภาค 2
เอากลุ่ม System ก่อนก็แล้วกัน เพราะเป็นกลุ่มที่ผมเกี่ยวข้องมากหน่อย และมีข้อมูลที่เขารับสมัครงานกันมากที่สุด
ในกลุ่ม System นี้จะแบ่งเป็น 3 สายตามที่ได้กล่าวมาแล้ว
สำหรับสายที่ 2 คือ ดูแลระบบนั้น จะแบ่งเป็น 2 ด้าน คือ Windows และ UNIX ซึ่งโดยทั่วไปกลุ่มคนที่ไป 2 ด้านนี้เขามักจะไปในแนวทางของตัวเอง คือ คนที่ไปทาง Windows เขาก็มักจะไปทาง Windows ไม่ค่อยเปลี่ยนมาเป็น UNIX คนที่ไปทาง UNIX ก็ไม่ค่อยเปลี่ยนไป Windows คนที่ทำงานกลุ่มนี้ ควรจะมีความกระตือรือร้น เพราะมักมีการเปลี่ยนแปลงของซอฟต์แวร์ตลอดเวลา ต้องเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และหนังสือที่ต้องอ่านก็มีปริมาณค่อนข้างมาก นอกจากนั้นต้องชอบแก้ปัญหา เพราะมักจะมีปัญหาเกิดขึ้นบ่อย ๆ คนที่ทำงานในกลุ่มนี้ จะไม่สามารถควบคุมเวลาของตนเองได้ เพราะหากมีปัญหาก็จะต้องไปทำให้เสร็จ หากงานไม่เสร็จบางทีก็จะไม่ได้กลับบ้าน ดังนั้นหากคุณมีแฟนที่ต้องการเวลาที่แน่นอนจากคุณ อาชีพนี้อาจไม่เหมาะ
การทำงานในสายนี้ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ใช้ความรู้ที่เรียนมามากสักเท่าไร โดยเฉพาะวิชาเลือก เพราะมันเฉพาะทางมากเกินไป อย่าง Windows คงจะสอนไม่ได้หรอกว่าจะ Config อย่างไร เพราะเฉพาะตัว Windows 2000/2003 ถ้าจะเรียนกันจนเก่ง ก็คงต้องใช้เวลาเป็นเทอมแล้วละ แล้วยังมีซอฟต์แวร์อย่าง Exchange ที่เป็น Mail, SQL Server ที่เป็น Database Server และอื่น ๆ อีกเยอะ นอกจากนั้นยังมีซอฟต์แวร์ของ Third Party ที่จำเป็นต้องรู้อีกเช่น Antivirus, Firewall เรียกได้ว่าสามารถเทียบกับการเรียนปริญญาตรีได้ 1-2 ปีเลยทีเดียว สำหรับ UNIX ก็ไม่ต่างกันเท่าไร คือ มีเรื่องที่ต้องรู้เยอะ
ดังนั้นความรู้ส่วนใหญ่ที่ใช้ จะเป็นความรู้ที่เรียนรู้ระหว่างการทำงาน งานจึงหนักไงครับ โดยทั่วไปคนที่อยู่สายนี้เขาจะวัดความรู้กันที่ Certificate หรือใบประกาศที่แต่ละค่ายเขามีให้ไปสอบวัดความรู้ แต่ไม่ได้วัดทั้งหมดนะ คือ เขาจะดูใบ Cert ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเขาจะสัมภาษณ์เอา เดี๋ยวนี้บางมหาลัย ก็เลยให้เด็กสอบในระหว่างเรียนเลย
คนที่มุ่งมั่นจะไปสายนี้ ควรจะมีความเชี่ยวชาญในสายที่ตัวเองต้องการจะไป เช่น หากเป็น UNIX ก็น่าจะ Admin ระบบได้ หรือหากเป็น Windows 2000/2003 ก็ควรใช้งานในระดับ Admin ได้ ปัจจุบันมีตำราภาษาไทยอยู่เยอะ ลองหามาอ่าน ในการรับเข้าทำงานสายนี้ เขาจะไม่ดูเกรดมาก เพราะความเก่งของสายนี้มันไม่ขึ้นกะเกรดสักเท่าไร แต่ให้มากกว่า 2.5 ไว้เป็นดี เขาจะใช้วิธีสัมภาษณ์เพื่อวัดความรู้ และนิสัย ดังนั้นหากตอนนี้เราสามารถโชว์ความสามารถของเราออกไปได้ เราจะได้เปรียบค่อนข้างมาก ในการรับสมัครส่วนใหญ่เขาจะเข้มงวดพอสมควร เพราะส่วนใหญ่จะรับครั้งละไม่มาก ทีละแค่ไม่กี่คน จึงพยายามเลือกให้ดีที่สุด
คนที่ไปสายนี้ควรมี Skill ทางด้าน Programming เล็กน้อย ไม่ต้องมาก เพราะอาจจะมีการเขียนพวกสคริปต์ โดยเฉพาะ UNIX นี่ต้องใช้เยอะเลยนะครับ
วิชาที่ต้องเรียนในสายที่ 2 นี้ คือ จำเป็นต้องใช้
TCP/IP Networks เพราะต้อง Config ด้านนี้มาก ความรู้ด้านนี้ขาดไม่ได้เลย
Computer Security เพราะใช้ในการป้องกันระบบ
Network Security เพราะใช้ในการป้องกันระบบ
UNIX Programming สำหรับคนที่จะไปสาย UNIX
วิชาที่เสริมอาชีพในสายนี้
Introduction to Local and Wide Area Networks
Campus Network Design
Wide Area Network Design
Telecommunication Networks
Advanced Database Systems
คนที่จะไปสายอาชีพนี้ อาจมีวิชาเรียนที่สามารถนำไปใช้ไม่มากนัก ทั้งนี้เนื่องจากเหตุผลที่ได้กล่าวมา ดังนั้นจะวิชาอื่น ๆ ก็เลือกได้ตามความชอบ แต่อย่าลืมฝึกฝีมือเอาไว้บ้าง
กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่ม Network นั้น ในทางปฏิบัติแล้ว มักหางานที่เป็น Network Pure ได้ยาก เพราะมันใช้คนน้อย เช่น บริษัทแห่งหน
หลังจากครั้งที่แล้วที่อัพนี่สาระล้วนๆ ยังไม่ได้พล่ามเลยรู้สึกหงุดหงิด เหอะๆ คราวนี้เลยมาบ่นซะหน่อยให้หายเครียด
ผ่านไปสองอาทิตย์แล้วสำหรับการฝึกงาน เร็วเหมือนกันเนอะ การฝึกงานนี่ก็ทำให้เราได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง ความ
อดทน ตื่นเช้า (กว่าตอนไปเรียนอีก) ความรับผิดชอบด้วย แต่ที่สำคัญก็คือ มันทำให้เราเห็นคุณค่าของวันเสาร์อาทิตย์
มากขึ้น อารมณ์ประมาณเบียร์เชียร์เลยอ่ะ ซึ้งๆ เหอๆ
เริ่มเล่าเรื่องอะไรก่อนดีล่ะ วันก่อนไปฝึกงานแล้วหัวหน้าแผนกเค้าพาไปเลี้ยงข้าวด้วย ไปกันทั้งแผนกเรย (ประมาณ
9 คน ) ถ้าจะไม่ผิดเป็นร้านเดียวกะตอนที่พ่อด๋อยพาไปเลี้ยงตอนทำเรือกันที่บ้านโดม (ม. 3 เลยนะนั่นน่ะ) ก็อิ่มไปอีก
หนึ่งวัน แล้ววันก่อนสงกรานต์นะ ก็มี ผู้ลงสมัครสว.มาหาเสียงด้วย รู้สึกว่าเค้าจะเป็นที่ปรึกษาของ samart เลยล่ะ มา
ไซโคให้พนักงานเลือก เอิ้กๆ เค้าเอาใบแนะนำตัวมาให้เราด้วย แบบมองหน้าแถวถามว่า "น้องก็เลือกได้แล้วใช่มั้ย
คะ ?" เอ่อ … ขอบคุณนะ ที่เดาถูก หึหึ เสดวันนั้นยังไม่หมด พอตอนบ่ายครับ ก็เห็นผู้ชายคนนึง เดือนเข้ามา ถือปืนฉีด
น้ำมาด้วย เสดแล้วเค้าก็ยิงเลยคับ ทั้งชั้นเลย ยิงไปทั่วเลย พร้อมกับบอกสุขสันวันสงกรานต์ เรานี่แทบเอาตัวบังโน๊ต
บุคไม่ทันเรย เอิ้กๆ แต่ก็เห็นทำไมพนักงานยิ้มกันใหญ่ หันไปถามพี่ พี่เค้าบอกว่านั่นน่ะ เจ้าของ samart เลยนะ เอิ้กๆ
รู้งี้ปล่อยให้เค้ายิงโน๊ตบุคก็ดี จะได้ให้ซื้อให้ใหม่เลย ฮ่าๆๆ
อื้อ มีอีกเรื่องนึง สำหรับใครที่อยู่แถวระแวกบ้านเรา ก็ขอดีใจด้วยเพราะตอนนนี้ The Avenue ตรงแจ้งวัฒนะ (ติดกับ
Big C อ่ะ ) เปิดแล้ว แม้จะยังเปิดไม่หมดทุกส่วน แต่วันก่อนแอบไปเซอร์เวย์มาแล้ว เหอะๆ ของกินเยอะดี เท่าที่ดู
คร่าวๆ เน้นว่าคร่าวๆนะ ก็มี Fuji , KFC , The pizza , Swensen , Starbuck , Burgerking , Sisler, แล้วก็มีร้านอาหาร
ไทยอีกนิดหน่อยจำชื่อไม่ได้ ใครว่างๆ ก็ลองแวะไปได้นะ ^^ มีรูปถ่ายด้วยมารูปนึง
วันก่อนไปงานสัปดาห์หนังสือมา ได้นิยายมาสามเล่ม เหอะๆ เป็นนืยายสืบสวนน่ะ ชุดเดียวกันด้วย คือมีพระเอกคน
เดียวกันหมดทั้งสามเล่ม แต่เนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกัน ปรากฎว่า สามเล่มอาทิตย์เดียวจบครับ รู้สึกว่าไม่คุ้มเลย ที่ว่าไม่คุ้ม
นี่นึกว่าน่าจะอ่านจบซักตอนเปิดเทอม ใครอยากอ่านมายืมได้นะ ^_^ มีหน้าปกมาให้ดูด้วย 3 เล่มคือ หลง , กลลวง ,
เล่ห์ เป็นไง ชื่อเท่มะ เหอะๆ
ปล. สงกรานต์ไปเที่ยวไหนกันมาบ้างอ่ะ เอาของฝากมาเลย เราอยู่บ้านอีกแล้วปีนี้ เอิ้กๆ….
หวาดดี ค้าฟ เพื่อนๆเป็นไงกันบ้างกับการฝึกงาน จากที่ได้ยินมา หลายๆคนก็ได้ทำงาน(จนแทบจะเอาตัวไม่รอด) ใน
ขณะที่ อีกหลายๆคนก็โครตจะเซง เพราะไม่ได้ทำอะไรเลย ส่วนเราหรอ ต้องเล่าก่อนว่าตอนแรกที่ได้ฝึกงานที่นี่ก็ยังไม่
รู้เลยว่าจะได้ทำอะไร รู้แต่ว่าเป็นบริษัทในเครือ Samart I-Mobile ซึ่งจิงๆมันเป็นบริษัทลูก ชื่อ Samart Info Tect ซึ่งจาก
การที่เราได้สืบหาข้อมูลในทางลับ พบว่า มันก็คือ BUG (1113) นั่นเอง เวรกรำไม่คิดว่าจะมาเกี่ยวกะมันได้ แต่เราทำ
ส่วนของ I-Sport ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลทางด้านกีฬา
จะเล่าให้ฟังว่า วันแรกไปถึงแปดโมง ปรากฎว่าเค้าเริ่มงานกันแปดครึ่ง นังรอซักพักนึงก็ไปรายงานตัวที่แผนกที่ทำ
งาน ปรากฏว่า ที่นั่นมีเด็กฝึกงานอยู่แล้วสองคน แล้วมีคอมให้เครื่องเดียว ซวยเรยตู ต้องเอาลูกสุดที่รักมาใช้เองด้วย
วันแรกก็ได้นั่งๆๆๆๆ ตั้งแต่เช้าจนเที่ยง แล้วก็นั่งงับหูตัวเองเล่นอีกพักใหญ่ในตอนบ่าย โครตจะเซงเลย แต่เหมือน
สวรรค์จะรู้ว่าถ้าให้เรานั่งต่อ หูได้แหว่งแน่ๆ เลยมีพี่คนนึงเค้ามาให้งานทำ (ดีใจมั่กๆ) แล้วปรากฏว่ามันเป็นงานที่ไม่
เล็กเรย พี่เค้าให้ทำเกี่ยวกับ WAP ซึ่งเป็นโปรเจคฟุตบอลโลก 2006 ที่จะให้บริการดูข้อมูลใน โทรศัพท์มือถือ จำพวก
ผลการแข่งขัน อัตราต่อรอง ตารางถ่ายทอดสด อารายพวกนั้นให้ดูบนมือถือ ก็เป็นอันว่าได้งานทำ พี่เค้าให้เขียนด้วย
ASP .NET เป็น Web Mobile Form ก็เคยจับเป็นครั้งแรก ก็รู้สึกดี แต่ก็แอบเซงว่าต้องติดบ่วงไมโครซอฟท์ต่อไป
อีกเรื่องนึง วันก่อนไปงานบวชพูมมา ก็ขอโทษเพื่อนๆนะที่ไปต่อไม่ได้ บังเอิญว่าต้องไปแม่ไปซื้อของ แต่ดีใจว่ะ ที่ได้
เจอกัน อย่างน้องก็ยังเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า ไม่เจอกันนานแค่ไหน กลับมาเจอกันทีไรก็ยังเหมือมเดิม เหอะๆ เอ้อ อีก
อย่างนึง วันก่อนที่บอกว่าไปแข่ง CNAP รายงานผลซะหน่อย ว่าไม่ได้รางวัลไรกลับมาเลย (ทั้งๆที่เค้าแจกออกจะเยอะ
แยะ) แล้วก็ขอโทษตั้มกะพี่หวานด้วยที่ทำให้ผิดหวัง เอิ้กๆ
Edited : ขอลบข้อมูลบางส่วนออก เนื่องจากไม่ปลอดภัยต่อความมั่นคงของมนุษยชาติ ไว้คุยกันหลังไมค์ละกัน + เปลี่ยน Font นิดหน่อย