😛 ได้เขียนหลายวันเลย วันนี้อารมณ์อยากเขียนอะไรก็ไม่รู้ เลยมาอัพสเปซหน่อยดีกว่า หลังจากพึ่งกลับจากไปส่งพี่ที่สนามบินใหม่มา 
 
เพิ่งจะเคยเข้าไปที่อาคารผู้โดยสารครั้งแรก แต่รู้สึกว่าจะไม่ใหญ่อย่างที่คิดแฮะ การที่มันรวมเอาอาคารต่างประเทศกับภายในประเทศไว้ที่เดียวกัน 
 
กลับทำให้รู้สึกว่าน่าจะสร้างให้ใหญ่กว่านี้อีกเยอะ แต่จิงๆแล้วส่วนที่ใหญ่ขึ้นมากๆ คงเป็นส่วน Gate ที่จะไปขึ้นเครื่องมากกว่าดูจากแผนที่แล้ว ก็เยอะอยู่ 
 
แต่ส่วน Check-in ไม่ได้ใหญ่ขึ้นซักเท่าไหร่เลย… อีกอย่าง เรื่องห้องน้ำนี่สมคำล่ำลือจิงๆ เล็กมากแถมดูแล้วไม่ค่อยสมกับสนามบินดีๆเลย
 
 ห้องน้ำโรงหนังบางทียังดูดีกว่าอีก 😛
 
 
พอแระเรื่องสนามบิน มาเรื่องนี้บ้างดีกว่า วันนั้นไปเดินพันทิพย์ ก็ได้เจอเรื่องอะไรแปลกๆดี เรื่องแรกคือตอนเดินออกมาจากพันทิพย์ 
 
มีป้าคนนึงแกเข้ามาถามว่าฟังภาษาอิสานได้มั้ย เราก็บอกว่าฟังไม่ค่อยได้ ป้าแกก็ถามทางไปบางกอกน้อยหรืออะไรซักอย่างนี่แหล่ะ 
 
ไอเราก็ไม่รู้ว่าจากตรงนั้นจะไปยังไง ก็บอกไปว่าไม่รู้ถามไปถามมาสุดท้ายมาลงที่คำว่า พอมีเศษตังให้ป้าบ้างมั้ย… ไอเราน่ะ ตังก็พอมีอยู่บ้าง 
 
แต่ยังไม่ทันคิดก็บอกว่าไม่มีแล้วเดินออกมาเลย แล้วหันกลับไปดูป้าแกก็เดินกับเด็กผู้ชายอีกคน …. ตอนเดินก็คิดๆแล้วก็รู้สึกผิด ว่าทำไมไม่ให้เค้า 
 
แต่อีกใจนึงก็รู้สึกว่าไม่อยากตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงคนโดยเอาความสงสารของคนอื่นเป็นเครื่องมือ สุดท้ายแล้วเราก็ไม่รู้หรอกว่าป้าคนนั้นไม่มีตังกลับบ้านจิงๆ 
 
หรือว่าเดินขอเงินคนอื่นไปเรื่อยๆ  …
 
 
 
ตอนขากลับก็มีเรื่องให้สดุดอีกเรื่องนึง ก็คือ ซื้อตั๋วรถไฟฟ้าแล้วก็ขึ้นไปรอรถอยู่บนชานชลา ตอนเดินขึ้นไปก็เห็นมีผู้ชาย-หญิง สองสามคนยืนอยู่ 
 
เราก็ไม่ได้สนใจ แต่ดูๆเหมือนเค้างอนกันอยู่ (นี่ขนาดไม่สนใจนะเนี่ย เดี๋ยวๆ อย่าเข้าใจผิด ต้องอ่านให้จบก่อนแล้วจะรู้ว่าทำไมถึงเดาว่าเค้างอนกันอยู่) 
 
เราก็เดินมารอรถตรงริมขอบ ยืนๆอยู่ก็เห็ผู้ชายคนนั้นลุกนั่งสักสิบครัง เสร็จแล้วคราวนี้ก็ลงไปวิดพื้น ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิด วิดพื้น พร้อมกับนับด้วย
 
 ไอเราก็ไม่กล้าจะฮามาก แต่ก็อะนะมองๆไปมันก็น่ารักดี ผู้ชายคนนึงกำลังวิดพื้นต่อหน้าผู้คนมากมายบนสถานีรถไฟฟ้าเพื่อขอคืนดี ทำไปได้… 
 
เหอะๆ แต่รู้สึกว่าแฟนเค้าก็ไม่หายมั้ง … เอิ้กๆ
 
 
 
ปล.หวังว่าเพื่อนทุกคนคงสบายดีนะ ใครเป็นไงก็ส่งข่าวคราวกันบ้างนะ 😛