ภูทับเบิก

หลังจากที่ดองจนเริ่มเค็มก็ได้ฤกษ์เอามาให้ชิมกันได้แล้ว.. เอ้ย !! ไม่ใช่ไข่เค็ม

ตอนกลางๆเดือนธันวา 50 ที่ผ่านมาได้ไปเที่ยวเล่นแถวๆภูทับเบิกมาเลยเอารูปมาฝากกัน ^^

img_1429img_1430img_1435

Welcome to my new home

ย้ายบ้านนนนนแล้ววว 🙂

ในที่สุดก็ได้เวลาย้ายบ้านมาอยู่บ้านใหม่ หลังจากที่ฝากผีฝากไข้ไว้กับ Spaces มานานแล้ว จากที่ด้อมๆมองๆอยู่พักนึง ท้ายที่สุดก็ลงตัวที่ Engine ของ WordPress

ที่สำคัญคือสามารถเอาข้อมูลบล็อกทั้งหมดที่เขียนไว้ตั้งแต่ปลายๆปี 2005 ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ทั้งหมด เดี๋ยวจะเอาวิธ๊มาลงนะว่าสามารถทำได้ยังไง

หวังว่าต่อไปน่าจะได้เข้ามาเขียนบ่อยขึ้น แต่ว่าตอนนี้ต้องไปทำงานก่อน ^^

PS.Special Thx Poom for Host.

The 7 Habits

 

ช่วงวันที่ 8-10 กันยาที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปอบรม Course The Seven Habits of Highly Effective People สำหรับพนักงานตลาดหลักทรัพย์ ที่โรงแรม Swiss?tel Le Concorde ตรงรัชดา จริงๆคอร์สนี้มีอยุ่เรื่อยๆมานานแล้ว (รุ่นนี้รุ่นที่ 26) แต่เวลาและโอกาสเพิ่งจะเอื้ออำนวย (โทษไปเรื่อยอ่ะ)

ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้อะไรซักเท่าไหร่ เพราะว่าเรื่องเกี่ยวกับมุมมอง การตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆ  พวกปรัชญา หรือแนวความคิดที่คนอื่นๆเค้าพูดกัน มันมักจะไม่ถูกใจ ไม่สามารถนำมาใช้กับตัวเองได้ ยิ่งบางแนวคิดนี่ออกๆจะต่อต้านซะด้วยซ้ำไป ยิ่งพวกแนว Successfully Story ทั้งหลายนี่จะไม่ค่อยกินเส้นกัน

แต่จากที่เทรนมาสองวัน (ณ ตอนเขียนวรรคนี้) ยังรู้สึกประทับใจในแนวคิดนี้หลายๆเรื่อง อย่างน้อยก็ทำให้ไม่รู้สึกต่อต้าน เพราะมันไม่ได้มาบอกว่าเราต้องทำอะไร ไม่มีถูกหรือผิด เพียงแต่ให้เราคิด ตัดสินใจ วางแผนให้มากขึ้น ซึ่งผลสุดท้ายแล้วเราอาจจะตอบสนองมันไปเหมือนเดิม (ตอนที่ไม่ได้คิดอะไรให้มันวุ่นวาย) ก็ได้

แต่หลายๆเรื่องสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ อย่างเช่นเรื่องการตัดสินคน/การกระทำเมื่อแว๊บแรกที่เราเห็น อาจส่งผลต่อกริยาที่เราแสดงออกไป ถ้าสิ่งที่เราคิด นั้นไปในทางบวกก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าสิ่งนั้นเป็นไปในแง่ลบเราควรคิด ก่อนซักเล็กน้อยก่อนที่จะ Response มันออกไป แต่ซึ่งถ้าเราคิดแล้วแล้วเห็นว่ามันลบจริงๆ ก็แสดงออกอย่างที่เราอยากทำมันต่อไป แต่อาจจะมีบ้างที่มันคงทำให้เรามองเห็นว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นจริงๆไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด …

อีกอย่างคือการมีเป้าหมายก่อนที่จะลงมือทำ .. เพื่อที่จะได้รู้ว่าจะทำอะไร ด้วยวิธีการไหน เป้าหมายถึงจะสำเร็จ … อันนี้ถ้าเป็นเรื่องเรียนหรือเรื่องงานค่อนข้างจะชัด เพราะบางคร้งเป้าเหมายก็ถูกกำหนดมาจากคนอื่น จากสังคม จากกฏเกณฑ์อย่างกลายๆ ทำให้เรามองเห็นก่อนจะทำอยู่แล้ว เรียนให้ได้เกรดดีๆ ทำงานนู่นนี่ให้ทัน ตามกำหนดเวลา .. แต่มันก็มีอีกด้านของตัวเองที่อยากทำอะไรไปตามอารมณ์ ไม่มีเป้าหมายมากมาย ไม่มีเหตุผลรับรองตอนทำ (แต่หาที่หลังได้ไม่ยาก)

… ถ้ามีคำถามว่า อยากให้คนพูดถึงเรายังไงเมื่อเราตายไปแล้ว ? … แล้วเราจะทำอย่างใรถึงจะเป็นอย่างที่เราอยากได้ (อันนี้ความรู้สึกอีกด้านกำลังบอกว่า

แล้วสนใจอะไรกับคนอื่นล่ะ ? แค่เรามันใจว่าถึงเวลานั้นแล้วเราไม่เสียใจก็พอ เรามีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดมาก็พอแล้วไม่ใช่หรอ) อันนี้ต้องมา Discuss (กับตัวเอง) กันอีกยาวว ..

เรื่องต่อมาที่ชอบคือเรื่องการแบ่งลำดับความสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่เราจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่เร่งด่วนกมากกว่าสิ่งที่สำคัญ … ซึ่งบางครั้งทำให้เราทำอะไรที่เร่งด่วนๆทั้งหลายโดยที่มันไม่มีความจำเป็นต้องทำคือไม่ไม่สำคัญ (ส่วนเรื่องที่ทั้งสำคัญและเร่งด่วนก็ทำไปเถอะ) และเราควรจะอยู่ กับสิ่งที่สำคัญมากกว่าสิ่งที่เร่งด่วน อันนี้ค่อนข้างเห็นได้ชัด ลองได้อยู่กับอะไรเร่งด่วนๆตลอดเวลา มันเหมือนมีแรงโน้มถ่วงมากกว่าปกติ

คล้ายไปอยู่ดาวอังคาร (มันหนักกว่าใช่ป่ะ) มันทำให้เราเหนื่อย ถ้าสามารถทำสิ่งที่สำคัญได้แต่เนิ่นๆ หรือล่วงหน้า พอถึงเวลามันก็แค่สำคัญ แต่ไม่เร่งด่วนแล้วเพราะเราทำเสร็จหมดแล้ว …

อีกเรื่องนึงคือการ Think Win-Win อันนี้รู้มานานมากแล้วว่าควรทำแต่เอาเข้าจริงยังนำไปปฏิบัติได้ยากอยู่ เพราะการคิดอะไรเผื่อคนอื่นก่อนคิดถึงตัวเอง มันขัดกับสิ่งที่ปฏิบัตืมาอย่างเสม่ำเสมอ .. คือโดยปกติเราต้องหาทางให้เราทำสำเร็จก่อน ถึงจะคิดต่อว่าช่วยให้คนอื่นสำเร็จด้วยได้มั๊ย.. ซึ่งมันก็ดี

แต่ถ้าคิดถึงคนอื่นก่อนเลยว่ามี win win รึป่าวเนี่ยคงต้องฝึก ? แต่ก็ไม่ใช่ทุก Case และไม่ใข่กับทุกคนที่เราจะคิดแบบนี้ได้ ..

Each Value Of Life *~

 

ไม่ได้เข้ามาอัพเดทเรื่องราวของชีวิตนานเลย … แป๊บๆ ก็เข้าสู่สี่เดือนสุดท้ายขอปีอีกแล้ววว

เดือนสืงหาที่ผ่านมามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายยย

เริ่มจากต้นเดือน … อาทิตย์แรกก็ได้มีอะไรตื่นเต้นๆในชีวิตนิดหน่อย (จริงๆไม่หน่อยอ่ะ เรียกว่ามากๆดีกว่า ><~) รายละเอียดจริงๆจังๆคงไม่เขียนอ่ะ แหะๆ

แต่หลักๆก็คือได้ทำอะไรบางอย่างตามที่ได้คิดไว้ และผลลัพธ์ก็ดูเหมือนจะไปได้ด้วยดี .. เป็นการเริ่มต้นอะไรดีๆให้กับชีวิตอีกครั้ง 

ได้ไปเดินเล่นสวนสัตว์เปิดเขาเขียว .. ไปเดินเล่นริมทะเล .. นั่งรอพระอาทิตย์ตกเล็กน้อย ก่อนกลับมาสู่โลกเห่งความเป็นจริงอีกครั้ง … ^^

  IMG_0783 IMG_0745 IMG_0777_E IMG_0736

อีกวันนึงของเดือนนี้คือรู้สึกมีส่วนร่วมกับประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ทั้งโอลิมปีกที่จีน กับการมีชีวิตผ่านพ้นวันที่ 08/08/2008 ไปได้ (อย่างกะต้องเอาชีวิตรอด)

ถัดมาอีกอาทิตย์ก็เป็นวันแม่ & วันเกิดแม่ .. ปีนี้ไปกินอะไรกับแม่กับเพื่อนแม่เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ให้อะไรแม่อ่ะ (><~ แย่เนอะ)

IMG_0770 30072008(002) IMG_0871 IMG_0795

ถัดมาอีกอาทิตย์ก็เป็นวันทดสอบแผนฉุกเฉินของระบบ PTI  (BCP) งานนี้ก็แทบเอาตัวไม่รอด กลับบ้านมาด้วยสภาพย่ำแย่ ผ่านไปได้แบบแผลเหวอะหว่ะ

มีนู่นี่ผิดพลาดไปเยอะพอสมควร ไปถึงที่ทำงานตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่ง เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เที่ยง.. แถมจากระบบ Backup กว่าจะเอากลับเป็น Production

กว่าจะเสร็จก็สี่โมงกว่า … นัดเหมือนไว้คร่าวๆประมาณบ่ายสอง – -" ไปถึง .. ห้าโมงกว่า .. เอิ้กๆ

 

08082008(001) IMG_0791 30072008(003) DSC00006

สรุปว่าเดือนที่ผ่านมามี activities ทุกอาทิตย์เลยยย ^_^ จริงๆมีเรื่องราวอีกหลายอย่างเลยที่อยากเขียน เดี๋ยวไว้ อัพอีกครั้งเร็วๆนี้ดีกว่า ^^

อันนี้มันแอบดราฟไว้นานเกินไปแล้ว เขียนต่อไม่ค่อยได้อ่ะ ^^

ปล.วันนี้(5)วันเกิดพี่ฝน Happy Birthday นะเว้ยยยเอ็ง…

Caterpillar

 
อยู่ๆได้อ่านข้อความข้างล่างนี้แล้วชอบ … เลยอยากเอามาเก็บไว้ + อยากให้คนอื่นๆได้อ่านกัน ^_^
 
Credit . K. BlueMaNia จาก บอร์ด Internal.set
 
คุณรู้จักหนอนผีเสื้อไหมครับ ???
 
 
ธรรมชาติของหนอนผีเสื้อ เวลาเดินหาอาหาร มันจะเดินตาม ๆ กันไปครับ ตัวที่เดินนำ ก็จะปล่อยใยบาง ๆ (ใยนี้ เราเรียกมันว่า Silk trail) ออกมา ตัวที่เดินตาม ก็จะคืบคลานตามแนวเส้นใยที่ตัวหน้าทิ้งไว้
 
พร้อมกับปล่อยเส้นใยของตัวเอง ให้ตัวถัดไปตามมาอีกทอดหนึ่ง หนอนเหล่านี้ ก็จะเดินตามติดกันไปเรื่อย ๆ อย่างไม่คิดมาก จนกลายเป็นแถวยาว ตัวที่เดินนำ มิใช่ฉลาดหรือยิ่งใหญ่แต่ประการใด
 
แต่เพราะมันบังเอิญ เดินอยู่ข้างหน้าของหนอนทุกตัวเท่านั้นแหละ!
 
 
ธรรมชาติของหนอนเช่นนี้ ทั้งน่าสงสัย ทั้งน่าแกล้งจริง ๆ ว่าไหมครับ ???
 
 
หนอนเหล่านี้ ไปกระตุ้นความสนใจใคร่รู้ของนักกีฏวิทยาชื่อก้องโลก นามว่า Jean-Henri Fabre จึงทดลองด้วยการนำหนอนเหล่านี้ มาเดินในกระทะทรงกลมที่มีขอบสูงและบรรจุดินไว้ภายใน
 
ผลลัพธ์ที่ปรากฏทั้งน่าขันและน่าคิด (ปนน่าสงสารนิด ๆ) คือหนอนเหล่านี้ ค่อย ๆ เดินวนรอบกระทะ หัวท้ายใกล้กันเข้ามาเรื่อย ๆ จนกลายมาเป็นวงกลมในที่สุด
 
ณ เวลานี้ ไม่มีหนอนตัวหัวแถวและหางแถวอีกต่อไป แต่ทุกตัวยังคงเดินกันเป็นวงกลมติดตามกันไปเรื่อย ๆ โดยไม่คิดมากเช่นเดิม
 
หนอนเหล่านี้ เดินดมก้นกันไม่หยุดอยู่ 6 วัน คลานไปทั้งหมด 500 รอบกระทะ รวมระยะทางที่มันกระดื๊บมากกว่า ? ไมล์หนอน หรือแปลงเป็นไมล์คนได้ 90 ไมล์ !!!
 
ที่น่าแปลกไปกว่านั้น คือระหว่างที่หนอนเดินหิวโซอยู่นั้น เฟเบอร์ นำอาหารไปวางอยู่กลางวงกลมหนอนเสียด้วย แต่ก็ไม่มีหนอนตัวใดเดินออกจากแถวเพื่อมากินอาหาร
 
ทุกตัวยังคงมุ่งมั่นอยู่กับการเดินตามตัวหน้าไปเรื่อย ๆ อย่างมุ่งมั่นและโง่งม
 
 
สุดท้าย เหล่าหนอนหลุดออกจากวังวนได้ เพราะสมาชิกหนอนเริ่มเหนื่อยและอดตาย จนแถวไม่ปะติดปะต่อ หนอนที่เหลือ จึงรอดมาได้อย่างสะบักสะบอม
 
เฟเบอร์ให้เหตุผลหลังจบกระบวนการทดลองนี้ว่า “พวกหนอนต่างเดินตามกันไปเรื่อย ๆ เพราะหนอนขาดความสามารถในการหาเหตุผลว่าทำไมมันจึงควรยุติการเดินตาม ๆ กันไปเช่นนั้นเสียที”
 
หากมีหนอนสักตัว หยุดคิดและเหลียวมองตัวเองว่ากำลังทำอะไรที่ไม่เข้าท่าอยู่หรือไม่ และเปลี่ยนวิถีทางเดินไปยังอาหาร หนอนน้อยและเพื่อนอีกหลายตัวคงมีชีวิตยาวขึ้น
 
เปลี่ยนจากโลกของหนอนกลับมาสู่โลกของเราครับ ทุกวันนี้ คนเราเอง อาจจะไม่ต่างจากหนอนมากนัก เพราะคนส่วนใหญ่ ก็ยังคงนิสัยการเดินตาม ๆ กันไป เราตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไร
 
เพราะว่าคนอื่นเขาทำหรือไม่ทำกันมากกว่า โดยเราอาจจะไม่ได้คิดเลย ว่าวิถีประชาเหล่านั้น ถูกต้องหรือเปล่า สร้างสรรค์หรือเปล่า เรากำลังเดินตามเส้นใยในวังวนที่ไม่มีทางออกเหมือนหนอนตัวหนึ่งอยู่หรือเปล่า
 
อาจจะมีบ้าง ที่บางห้วงความคิด เราอาจถามตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่ความคิดเช่นนั้นก้อพลันเกิดมาและดับไป มิได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิถีอันใด ซึ่งหากจะพูดอย่างเป็นธรรมกับหนอน
 
หนอนเอง ก็อาจจะเคยมีห้วงความคิดเช่นนั้นเช่นกัน หรือต่อให้ไม่เคยคิดเลย ผลลัพธ์ระหว่างคนที่คิดได้แต่ไม่กระทำ กับหนอนที่คิดอะไรไม่ได้เลย ก็ไม่ได้แตกต่างกัน ดังนั้น แค่คิดอย่างเดียวนั้น
 
ดูจะไม่เพียงพอเลยในการใช้ชีวิตให้เหนือหนอน
 
 
หากกาลิเลโอ เชื่อว่าโลกแบนเหมือนทุกคน เราคงยังกลัวการตกขอบโลกอยู่
หากนิวตัน บอกว่าแอปเปิ้ลตกใส่หัวเป็นเรื่องของ “ความซวย” โลกนี้คงไม่รู้จักแรงดึงดูด
หากเอดิสัน ทำตามชาวบ้านด้วยการใช้ตะเกียง เราคงไม่มีหลอดไฟ
หากเบล นิยมส่งจดหมายและรอคอยการตอบกลับอย่างอดทนเหมือนคนทั่วไป ทุกวันนี้ เราอาจไม่มีโทรศัพท์ใช้
และหากพระพุทธเจ้า นิยมการเสพสุขสำราญเหมือนคนอื่นเขาโดยมิพึงแสวงหาความสุขที่เหนือกว่า บัตรประชาชนของผม ยังคงมิรู้ว่าจะระบุในช่องศาสนาว่าอะไร
ฯลฯ
 
นี่คือบางส่วนของคนที่ไม่คิดตามคนอื่น แต่คิดบนเหตุและผล คิดบนความกล้าและความมุ่งมั่น คิดบนความสร้างสรรค์และจินตนาการ
 
 
คนส่วนใหญ่ไม่ต่างจากหนอนที่เดินตามก้นกัน แต่คนที่พิเศษสุดเท่านั้น ที่จะเดินออกจากแถวและอยู่รอดได้จนแปลงกายเป็นผีเสื้อ !!!!
Scroll to top