ลาก่อนครับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

เดือนนี้เป็นเดือนแห่งการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในชีวิตของผม…

หลังจากจบม.ปลาย สอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาลัย… จนถึงรับปริญญา มาถึงวันนี้การทำงานที่ตลาดหลักทรัพย์ครบ 3 ปีกว่าๆ ก็เป็นอันสิ้นสุดลง …

แน่นอนว่าระหว่างการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มีอะไรให้คิดเยอะแยะมากมาย เช่น


ที่ทำงานใหม่จะเป็นอย่างไรบ้าง ?

ความสัมพันธ์กับเพื่อนๆพี่ๆในทีม จะยังรู้สึกดีต่อกันใช่มั๊ย ?

แล้วที่ใหม่ล่ะ เพื่อนๆพี่ๆร่วมงานเราเค้าจะยินดีต้อนรับเราใช่มั๊ย ?

ต่อไปต้องเดินทางไกลขึ้น จะเหนื่อยมั๊ยนะ ?

จะลาออก เราต้องทำเรื่องยังไง ? แล้วจะบอกพี่ๆเพื่อนๆว่ายังไง

ถ้ามีใครซักคนอยากให้อยู่ต่อ .. เราจะตอบเค้าอย่างไร ?

เราคิดดีแล้วใช่มั๊ย ?

ยังมีงานอะไรค้างคาอยู่รึป่าว ?

ถ่ายทอดงานล่ะ ? ต้องทำยังไง ?


ทั้งหมดทั้งปวงล้วนเป็นคำถามที่วนไปเวียนมา บ้างก็หาคำตอบได้ บ้างก็หาคำตอบไม่ได้ … แต่หลายๆครั้งก็ได้กำลังใจจากคนรอบข้าง ช่วยให้เราผ่านความคิดอันวนเวียนออกมาได้

หรือว่า… นี่คืออีกก้าวหนึ่ง ของการเป็น “ผู้ใหญ่”


ข่างล่างนี้เป็นอีเมลที่ผมส่งเพื่อลาพี่ๆใน SET ขอเก็บไว้ตรงนี้เป็นอีกความทรงจำนึงที่สวยงาม



หลังจากเวลา 3 ปีกว่าๆผ่านไป…. วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะมาทำงานที่นี่แล้ว ผมจึงถือโอกาสนี้บอกลาพี่ๆเพื่อนๆทุกคนครับ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่ๆเพื่อนๆที่นี่ล้วนดีกับผมมากมาย…  มากจนผมรู้สึกเสียใจที่ต้องเดินจากบ้านหลังนี้ไป…

ผมอยากจะ”ขอขอบคุณ”เพื่อนๆพี่ๆทุกคน ที่คอยสอนสั่งสิ่งๆต่างๆตลอดมา หลายๆครั้งผมทำผิด หลายๆครั้งผมใจร้อน ก็ได้พี่ๆคอยช่วยแนะนำ ซึ่งทำให้ผมได้เรียนรู้เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก จากจุดเริ่มต้นเป็นเด็กจบใหม่ที่ไม่ค่อยรู้อะไรมากมาย ค่อยๆได้รับประสบการณ์ทำงาน ได้รับความใจดีเอิ้อเฟิ้อจากพี่ๆเพื่อนๆ ได้รับการให้อภัย… ขอขอบคุณมากครับ ผมพูดได้เต็มปากว่าผมภูมิใจที่ได้มาทำงานที่นี่ มาอยู่ทีมๆนี้ ที่มีพี่ๆเพื่อนๆทุกคนครับ

อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ ผมขอกล่าวคำว่า”ขออภัย”กับเพื่อนๆพี่ทุกคนครับ ผมเชื่อว่าหลายๆครั้งผมคงทำให้พี่ขุ่นเคืองหมองใจ ทั้งจากการทำงานและหลายๆครั้งการพูดเล่นของผมซึ่งเหมือนว่าจะเป็นการไม่เคารพพี่ๆ บางครั้งผมยังแกล้งพี่ๆด้วยซ้ำไป แต่ทั้งหมดผมทำไปด้วยความรักและแค่เพียงเพื่อให้เกิดความเฮฮาสนุกสนานเท่านั้น ส่วนพี่ๆ User ก็มีหลายๆครั้งที่ผมช่วยเหลือพี่ๆไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็น หรือทำงานผิดพลาดไปบ้าง ก็ต้องขออภัยพี่ๆมา ณ ที่นี้ด้วยครับ พี่ๆ System ก็เช่นกันต้องขออภัยในหลายๆครั้งที่ผมอาจจะกดดันหรือมีบ้างที่เราโต้เถียงกัน แต่ขอให้รู้เถอะครับว่าทั้งหมดนั้นผมทำไปเพราะอยากให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด ขออภัยด้วยนะครับ

สุดท้ายผมขอขอบคุณในมิตรภาพดีๆที่ทุกคนมีให้ผม ผมเชื่อว่าสิ่งดีๆเหล่านี้จะทำให้ผมจำอยู่ในใจไว้เสมอครับ และขอให้เพื่อนๆพี่ๆมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุขในทุกๆวัน และหวังว่าเราจะมีโอกาสพบเจอกันในวันข้างหน้าครับ


ขอบคุณมากๆครับ

แก้ว



Android Review : WiFi Analyzer

ต่อจาก วิธีจับภาพหน้าจอเจ้า Galaxy S ในคราวนี้แล้วก็มาต่อกันที่โปรแกรมแรกบน Android ที่จะพูดถึง…


มันคือโปรแกรม Wifi Analyzer

เรื่องของเรื่องคือ ไปช่วยติดตั้ง Access Point ที่นึง ซึ่งปรากฏว่าทำยังง๊ายย ก็ดูเหมือนจะช้า ต่อแล้วติดๆหลุดๆ ซึ่งก็ได้ตั้งข้อสันนิษฐานกันว่า อาจจะใช้ความถี่เดียวกับ Access Point อื่นแน่เลย @poom3d เลยแนะนำให้ลองใช้โปรแกรมนี้ดู ผลปรากฏว่ามันช่วยได้จริงๆด้วย โชว์กันเห็นๆเลย ว่า Channel ที่เราใช้ต่อ WiFi นั้นซ้ำกับ Access Point ของคนอื่น ผล(ที่เดาได้)ก็คือ Package คงวิ่งชนกันวุ่นวาน และเมื่อเปลี่ยน Channel ก็ทำให้ความเสถียรบังเกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ


Channel และ Signal Strength ของแต่ละ Access Point


มาดูกันว่ามันทำอะไรได้

  • แสดง Channel และ ความแรงของสัญญาณ ของ Access Point บริเวณนั้น (ตามรูปภาพด้านบน
  • อันถัดมานี่หล่อมาก ออกแนวเดียวกับเครื่องวัดรังสี(อำมหิต)เลย เป็นหน้าจอแสดงความเข้มของสัญญาณ ซึ่งจะแสดงเป็นหน้าปัดแบบเข็ม คลาสสิคมากๆ แถมเปิดเสียงได้ด้วย จะมีเสีย ติ๊ด… ติ๊ด .. และจะดังถี่ขึ้นเมื่อสัญญาณแรงขึ้น .. ติ๊ด ๆๆๆๆๆๆๆ

  • อันถัดมาเป็นหน้าจอสำหรับดูความแรงของสัญญาณเทียบกับเวลา แยกแต่ละ Access Point (อ่านแล้วงงล่ะสิ ไปดูรูปดีกว่า)

  • อีกหน้าจอเป็น รายละเอีดของแต่ละ Access Point รอบข้าง เช่น Mac Address , Channel, Signal Strength, Encryption เป็นต้น

  • สามารถทำ Snap Shot ออกมาเป็นไฟล์ .csv ได้ด้วย สามารถมาเปิดดูย้อนหลังได้
  • ส่วนสุดท้ายเป็น การ Settings ต่างๆ มีให้ตั้งเยอะแยกมากมาย ลองมาดูกัน

  • ปล. มีให้ติ๊ก Hide Ad ด้วย ซึ่งจะ Hide ไป อาทิตย์นึง ถ้าจะ Hide ใหม่ต้องมาติ๊กอีกที
  • ดาวโหลดได้จาก Market โดยตรงหรือเว็บไซต์ผู้พัฒนา http://sites.google.com/site/farproc/wifi-analyzer

วิธีจับภาพหน้าจอเจ้า Galaxy S

อุปสรรคที่ยังไม่ได้เขียน Review ใดๆของเจ้า Galaxy S ออกมาเลย นอกจากความขี้เกียจแล้วก็มีอีกอันคือ



*** ขออัพเดท ***

ถ้าตอนนี้อุปกรณ์ของคุณคือ Android 2.2 บน Galaxy S (ไม่แน่ใจว่ารุ่นอื่นทำได้มั๊ย) คุณสามารถ Capture หน้าจอได้ง่ายๆ โดยกดปุ่ม Back ค้างไว้ แล้วกดปุ่ม Home (ปุ่มตรงกลาง) น้อง Android ก็จะเซฟภาพหน้าจอให้ท่านเรียบร้อย ไปเปิดดูใน Gallery ได้เลยคร่าบ 🙂

ไม่ต้องลง App ไม่ต้อง Root ^^

ส่วนถ้าไม่ได้ ก็ยังคงทำตามวิธีด้านล่างได้เหมือนเดิมคับ ^^



การจับภาพหน้าจอ (Screen Capture) ของเจ้า Galaxy S นั้นยากกว่าที่คิด

ซึ่งจริงๆแล้วใน Android Market นั้นมีโปรแกรมจับภาพหน้าจอตั้งมากมาย แต่โปรแกรมทั้งหมดนั้นต้องทำการ Root ก่อนใช้งาน …

ซึ่งโดยส่วนตัวตอนนี้ แค่เหตุผลการจับภาพหน้าจอเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอต่อการ Root น้อง S ของเราเลย

หลังจากหาๆวิธีการ ก็เจอวิธีที่สามารถทำได้ … นั่นก็คือจับภาพผ่าน AndroidSDK


วิธีการก็ไม่ยุ่งยาก แต่การ Capture โดยไม่ต้อง Root นั้น ณ ตอนนี้ต้องทำจากคอมพิวเตอร์เท่านั้น วิธีการก็มาดูกันเลย

  • ขั้นตอนติดตั้งก็ไม่ยุ่งยาก Extract > แล้วก็ รันตัว SDK Setup
  • เมื่อ Setup บนคอมเสร็จแล้ว ก็มาที่ตัวมือถือกันบ้าง
  • ทำการ Enable USB Debugging โดยไปที่ Settings > Applications > Development > ติ๊กถูกหลัง USB Debugging

  • เสียบ USB เข้ากับคอมของเรา (หมายถึงเสียบให้คอมเชื่อมกับมือถืออะนะ)
  • เปิดโปรแกรม  ddms.bat โดยไฟล์โปรแกรมจะอยู่ใน Folder tools ใต้ Folder AndroidSDK ที่เราลงไว้
  • ถ้าการเชื่อมต่อปกติ จะมีลักษณะดังรูป

  • เลือกเมนู Device > Screen Capture
  • เป็นอันเสร็จสิ้น เราจะได้รูปหน้าจอขณะนั้นบนมือถือของเราทันที
  • ตัวอย่าง…  เป็นหน้าจอของโปรแกรม Wifi Analyzer เดี๋ยวคราวหน้าจะมาบอกว่ามันทำอะไรได้บ้าง


ทางเดินที่แตกต่าง

วันนี้ได้เห็น MV อันนึงซึ่งถูกโพสต์ผ่าน Facebook


มันอดไม่ได้ที่จะไม่เขียนถึง …


MV ที่ว่านี้เป็นผลงานของเพื่อนคนนึง …


คนที่รู้จักกันมานาน …


นานจนเลิกนับปีไปแล้ว …


ซึ่งทุกคนก็ล้วนเลือกทางเดินของตัวเอง ไปทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด …


แล้ววันนี้ก็ได้เห็นถึงความสำเร็จ


ซึ่งเกิดขึ้นบนความแตกต่างในการเลือกทางเดินนั้นๆ …


MV อรอนงค์ : The Jukks


ปล. เพื่อนผมคนร้องนำนะครับ

DLNA คืออะไร ?

หลังจากที่โม้ไว้หลายครั้งล่ะว่าอุปกรณ์ชิ้นโน้นชิ้นนี้รองรับ เจ้า DLNA ด้วย แต่ก็ไม่เคยเล่าซักทีว่า DLNA ที่ว่ามันคืออะไร ?

คราวนี้เราจะมาดูกันว่ามันคืออะไร ? มีอนาคตยังไง ? ช่วยอะไรเราได้บ้าง ?


DLNA คืออะไร ?

ว่าด้วยเรื่องทฤษฎี DLNA ย่อมาจาก Digital Living Network Alliance  … ถ้าจะให้แปลตามตัวก็คือ เป็นการรวมกลุ่มกันของผู้ผลิตอุกปรณ์ต่างๆเพื่อสร้างห้องนั่งเล่นที่สมบูรณ์แบบ (แปลได้เหียกมากเลยกรู)

หรืออีกนัยยะนึง มันก็คือมาตรฐานอันนึงที่ทำให้เรามั่นใจได้ว่า อุปกรณ์ชิ้นไหนที่รองรับ DLNA นั้น จะเชื่อมต่อกันได้อย่างง่ายดายนั่นเอง ข้างล่างเป็นภาพที่ DLNA อยากให้เป็น

 



แล้วไอกลุ่มที่ว่า(สนับสนุน)มีใครบ้าง ?

เอาเฉพาะที่ผมคัดเลือกมาละกัน … เห็นได้ชัดเป็นเป็น Samsung เพราะพี่แกใส่มาในแทบจะทุก Device ที่เป็นไปได้ คนอื่นๆก็มี Cisco,  LG, Intel, Huaweii,  Sony, Toshiba, Pioneer, Ericsson,  HP, HTC Nokia, Moto .. พอล่ะ


แล้วมันทำอะไรได้บ้าง ?

จากที่ลองเล่นมา อุปกรณ์ที่รองรับ DLNA มีสองโหมด คือ โหมดสำหรับเป็น Server ให้ อุปกรณ์ชิ้นอื่นๆเล่นไฟล์จากตัวเรา กับอีกโหมดคือเอาอุปกรณ์ที่ถืออยู่เล่นไฟล์จากเครืองอื่นๆ  อาจจะดูงงๆ พูดอีกทีก็คือเป็นผู้เล่น หรือเป็นผู้แชร์นั่นเอง แถมอีกอันที่ลึกซึ้งหน่อยคือ สามารถเป็นตัวควบคุมให้อุปกรณ์อีกตัวเล่นไฟล์ที่อยู่บนอุปกรณ์อื่นอีกที .. เป็นไงล่ะ งงกันเลยทีเดียว

ซึ่งที่เท่าที่ลองมา พบว่าอุปกรณ์ส่วนใหญ่จะทำตัวเองเป็นได้ทั้งตัวเล่นไฟล์และตัวแชร์ไฟล์ เช่น TV สามารถเลือกไฟล์หนังจาก Network Storage มาเล่นได้ ในขณะเดียวกัน TV เองก็สามารถแชร์ไฟล์รายการที่อัดไว้(ถ้ามี) ให้กับ Notebook หรือมือถือเอาไปเล่นต่อได้เช่นกัน

ข้างบนเป็นการเล่าแบบบ้านๆ แต่ถ้ามาดูตามทฤษฏีเนี่ย เค้าบอกว่า DLNA สามารถเป็นได้ 4 โหมด คือ

  • Digital media servers (DMS)
  • Digital media players (DMP)
  • Digital media controllers (DMC)
  • Digital media renderers (DMR)


เล่นไฟล์ประเภทได้บ้าง

จากที่เห็นก็จะมีการแบ่งประเภทเป็น ไฟล์เพลง ไฟล์หนัง ไฟล์รูปถ่าย ไฟล์ Video ที่อัดมากจาก TV เป็นต้น


อยากลองใช้ต้องทำไง ?

ตอนนี้ Windows Media Player 11 บน Windows 7 รองรับมาตรฐานนี้เรียบร้อยแล้ว สามารถเล่นเพลงจากอุปกรณ์อื่นๆได้ หรือสามารถ Share เพลงให้อุปกรณ์อื่นๆที่รองรับ DLNA เล่นได้เช่นกัน


Samsung Galaxy S with DLNA


ส่วนใครที่เป็นเจ้าของ Samsung Galaxy S แล้วล่ะก็ มีข่าวดีคือคุณสาสามารถใช้ DLNA ผ่านโปรแกรมที่ติดตั้งมาอยู่แล้ว ชื่อ “All Share” ซึ่งถ้ามีโอกาสจะมาทำให้ดูเป็นตัวอย่างกันครับ

และอีกอุปกรณ์ที่รองรับ DLNA ที่ผมใช้อยู่ก็คือ เจ้า Buffalo LinkStationDuo ซึ่งรองรับ DLNA ผ่าน Service ที่ชื่อ Media Server ซึ่งต้องไป Enable Service ในหน้า Management ก่อน และกำหนด Folder ที่ให้ Media Server เข้าถึงได้ เท่านี้ อุปกรณ์อื่นๆก็เล่นไฟล์จากเจ้า NAS ของเราได้แล้ว


Samsung LCD TV with DLNA


อีกชิ้นนึงที่ผมมองๆอยู่ ก็คือ Samsung LCD/LED TV Series 7 ขึ้นไป ที่รองรับ DLNA ด้วย ทำให้สามารถ Browse ไฟล์หนังจากเจ้า NAS มาเล่นได้เลยโดยไม่ต้อง Write แผ่นให้โลกร้อน และเจ้าตัวนี้ยังสามารถเล่น Web บางอันได้ในตัวเองเลย เช่น Youtube และ Streaming บางเว็บ เจ๋งมั๊ยล่ะ

Scroll to top