MAC101: เมื่อ Dock ย้ายหน้าจอด้วยตัวเอง

หลังจากใช้ Mac มา 4 เดือน ปัญหานึงที่เจอบ่อยๆก็คือ อยู่ๆ Dock ด้านล่างก็ย้ายจอเอง จากหน้าจอหลักที่เป็นจอนอก ไปยังจออื่นๆ

ที่ผ่านมาก็แก้ปัญหาด้วยการถอดสายจอแล้วเสียบใหม่ (เป็นวิธีการที่บ้านมาก)

จนเมื่อวานก็ชวนสมบอยคุยเรื่องนี้ ก็เจอว่าสมบอยก็ถอดสายจอเสียบใหม่เหมือนกัน จนสมบอยไปหามาให้ว่ามันเป็น feature !!

สาเหตุของการที่ Dock ย้ายจอคือฟีเจอร์ที่ว่า

“ถ้าเราลากเมาส์จากกลางหน้าจอ ลงไปถึงขอบล่างของจอบน monitor ใดๆ Dock จะย้ายไปอยู่ที่หน้าจอนั้น !! “

วิธีการแก้ปัญหาหลังจากนี้คือ

  • ถ้ามันย้ายไป เราก็ย้ายกลับด้วยการลากเมาส์บนหน้าจอหลักของเรา
  • อีกทางแก้ที่มีคนแนะนำคือ ปิด feature “Displays have separate spaces” (System preferences > Mission Control) ซึ่งส่วนตัวคิดว่ามีผลกระทบมากกว่าแค่การย้าย Dock เลยยังไม่ได้ลอง

บางทีก็งงนะว่าฟีเจอร์แบบนี้มีไปทำไมกัน !

ปล. บางทีก็งงกับคำในภาษาไทย ระหว่างหน้าจอ (Logical screen) กับ จอ (Monitor) เหมือนกันเนอะ

Ref:

Life in 2021

สิบปีแล้ว กับการเขียนสรุปเรื่องราวในแต่ละปีที่ผ่านมา ภูมิใจเล็กๆที่ทำอะไรระยะยาวมากขึ้นได้ … ถึงแม้ว่าจะเขียนบล็อกน้อยลงไปมากก็ตาม

ปล. (ยังไม่ทันจะเริ่มเลย) บล็อกมี dark mode แล้ว กดตรงพระจันทร์ที่ลอยๆอยู่มุมซ้ายล่างได้เลย

ปีนี้นับว่าเป็นปีที่เปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งรูปแบบการดำเนินชีวิตจาก covid ที่อยู่เป็นปีที่สอง รวมถึงช่วงชีวิต (stage of life) ที่ถึงจุดเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือครอบครัว

📖 ก่อนจะไปเริ่มที่เรื่องราวในปีที่ผ่านมา ปีนี้ขอเริ่มด้วยหนังสือที่อ่านค้างอยู่ “Life Is in the Transitions: Mastering Change at Any Age” ว่าด้วยเรื่องของชีวิตคนเราที่จะต้องผ่านจุดพลิกผันในชีวิต ทั้งด้านดีและไม่ดี ทั้งจากเรื่องง่ายๆ อย่างเรียนจบ เปลี่ยนหน้าที่การงาน จนไปถึงเรื่องยากๆอย่างเจอโรคร้าย หรือชีวิตพลิกผลันด้วยเหตุการณ์ต่างๆ …

ตอนนี้ยังอ่านไม่จบหรอก แต่คิดว่าเป็นการดีที่เราได้เรียนรู้ผ่านเรื่องของคนอื่นว่าชีวิตคนเรามันเป็น non-linear และอะไรก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ผู้เขียนเล่าว่าโดยเฉลี่ยในชีวิตคนเรานั้น จะมีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนจุดเปลี่ยนในชีวิตเกิดขึ้นทุกๆ 12-18 เดือน น่าสนใจว่าเราจะรับมือกับมันกันยังไง หลายๆคนก็เจอจุดสมดุลของชีวิตเพราะจุดเปลี่ยนเหล่านี้ พอย้อนกลับมาดูตัวเองในปีนี้ ก็เจอว่ามีหลายอย่างเลยเกิดขึ้นพร้อมๆกันในปีนี้

สลับภาษาคีย์บอร์ดบน Windows ด้วย Caps Lock

เรื่องที่คิดว่าไม่น่าจะเกิดก็เกิดขึ้นแล้ว … ก็คือตอนนี้ย้ายมาทำงานที่ใหม่ที่ต้องใช้ Mac เป็นหลัก

ทุกอย่างก็ดำเนินไปได้ด้วยดี เพราะส่วนใหญ่แล้วเราก็ใช้ Web based application กันหมดแล้ว (เค้ายังใช้คำนี้กันมั๊ยนะ) … ตัวแอพอื่นๆบนเครื่องก็ไม่ได้มีปัญหามากนัก เดี๋ยวจะทยอยมาเล่าเรื่องแอพที่ใช้บนแมค จากคนที่ข้ามมาจาก Windows / Surface อีกทีนึง (อีกทีตลอดๆ)

อ่ะ กลับมาเข้าเรื่อง

ปัญหาที่เจอกับตัวเองคือ บน Windows นั้น ทุกวันนี้ใช้ Alt + Shift ในการเปลี่ยนภาษา ด้วยเหตุผลหลักๆสองข้อคือ

  1. มันเป็นค่าเริ่มต้น ไปจับ Windows ไหนๆ เปลี่ยนภาษาด้วยวิธีนี้ก็น่าจะเวิร์ค (ไม่ก็ใช้ Win + Space bar แต่รู้สึกว่านิ้วพันกัน)
  2. ตัว Grave Accent ( ` ) ที่เรานิยมใช้ในสมัยก่อนนั้น ทุกวันนี้เราใช้ตัวนี้มากขึ้นมาก ในการเขียน blog/wiki ด้วยภาษา markdown

ปัญหาก็เลยเกิด เมื่อ Alt + Shift จาก Windows ไปเจอกับปุ่มเปลี่ยนภาษาบน Mac ที่ใช้ Caps Lock

ความจำกัดบน Windows คือ Windows นั้น (แม้จะเป็น Windows 11 แล้วก็ตาม) ให้เลือกปุ่มเปลี่ยนภาษาได้จำกัดมาก เลยต้องหาทางแก้ด้วยทางอื่น เมื่อตัว OS ทำไม่ได้

Phishing: ไปรษณีย์ไทย

วันนี้ได้รับอีเมลฉบับนึง บอกว่ามีพัสดุมาส่งถึงเราเมื่อวาน แล้วไม่สามารถจัดส่งได้เพราะว่าไม่มีผู้รับ แล้วจะจัดส่งให้ใหม่ในวันที่พรุ่งนี้ โดยมีค่าใช้จ่าย 48 บาท แล้วมีปุ่มให้เลือกว่าเราต้องการให้จัดส่งเวลาไหน

แต่ด้วยความเอะใจว่าช่วงนี้ไม่มีของที่สั่งเลย ไม่น่าจะมีอะไรส่งมา เลยลองอ่านอีเมลละเอียดๆก็พบว่า มันคือ Email phishing ที่ตั้งใจจะขโมยข้อมูลบัตรเครดิตของเรานั่นเอง

จุดตั้งข้อสังเกตบนอีเมล

มาลองดูกันว่ามีรายละเอียดอะไรบ้าง

  • หน้าตาอีเมลเมื่อเปิดบนมือถือ ค่อนข้างสมจริง เพราะ email address ผู้ส่งถูกซ่อนเอาไว้ แสดงแค่ POST TH แต่เมื่อลองกดเข้าไปดูดีๆจะพบว่า email ถูกส่งมาจาก [email protected] ซึ่งไม่ได้เป็น email official ของไปรษณีย์ไทย
  • ในหัวข้ออีเมล มีรหัส tracking no. ที่ไม่มีอยู่จริง (จริงๆดูจำนวนหลักก็พอจะเดาออก)
  • ด้านล่างของอีเมลที่ปกติจะมี link ให้ unsubscribe, ในกรณีนี้คือไม่มี link เลย น่าจะทำให้แค่เพิ่มความสมจริง
  • นอกจากนั้น เมื่อลองกด link ไปต่อ ก็จะพบว่ามันจะส่งเราไปที่เว็บไซต์ https://thailandpost-online-service.com/ เพื่อทำการจ่ายเงิน 48 บาท ที่อ้างว่าเป็นค่าธรรมเนียมในการจัดส่งอีกครั้ง ซึ่งปกติไปรษณีย์ไทยจะจัดส่งใหม่ให้เราฟรี เมื่อสังเกตดีๆจะพบว่า เว็บไซต์เองก็ไม่ใช่เว็บของไปรษณีย์ไทย
  • ตัวอีเมลเอง ยังมีการเร่งเร้าให้เราจ่ายเงินภายในเที่ยงคืนของวันนี้ เพื่อให้เหยื่อรีบทำแล้วไม่ได้ดูให้ถี่ถ้วน
  • ถ้าเรายังหลงกลไปต่ออีก ก็จะจุดจบ นั่นก็คือ ให้เรากรอกข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อหักค่าธรรมเนียม เหมือนจะใช้ Payment gateway ของ Redsys เป็นบริษัทใน spain
เมื่อเปิด email บนมือถือที่ไม่แสดง from email address
หน้าให้เลือกวิธีจ่ายเงินบนมือถือ
หน้ากรอก credit card บนมือถือ

กรณีนี้ email จะดูว่าปลอดภัย เพราะส่งออกมาจากเจ้าของ domain ที่แท้จริง เพราะอีเมลส่งมาจาก kajabimail.net ถ้าลองไปแงะๆดูก็เหมือนจะมีการใส่ reply-to email address ไว้เป็น [email protected]

ตัวเว็บไซต์ปลอมเองก็มี TSL ที่ดูเหมือนว่าจะเพิ่งสร้างขึ้นมาวันนี้เอง (3 Oct 2021) ส่วน domain name ก็เพิ่งจดทะเบียนเมื่อวาน (2 Oct 2021) ตัว website host ที่ websitewelcome.com

ต้องบอกว่ารายละเอียดบางอย่างสมจริงระดับนึงเลย เราก็คงป้องกันด้วยการระวังตัวเองให้ดีต่อไป

ถ้าดูในเว็บไปรษณีย์ไทย จะพบว่ามีการเตือน phishing อย่างจริงจัง และมีข้อมูลการพยายามหลอกลวงอย่างมากมาย https://www.thailandpost.co.th/un/article_detail/article/11/20752

End.

Scroll to top