ช่วงวันที่ 8-10 กันยาที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปอบรม Course The Seven Habits of Highly Effective People สำหรับพนักงานตลาดหลักทรัพย์ ที่โรงแรม Swiss?tel Le Concorde ตรงรัชดา จริงๆคอร์สนี้มีอยุ่เรื่อยๆมานานแล้ว (รุ่นนี้รุ่นที่ 26) แต่เวลาและโอกาสเพิ่งจะเอื้ออำนวย (โทษไปเรื่อยอ่ะ)
ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้อะไรซักเท่าไหร่ เพราะว่าเรื่องเกี่ยวกับมุมมอง การตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆ พวกปรัชญา หรือแนวความคิดที่คนอื่นๆเค้าพูดกัน มันมักจะไม่ถูกใจ ไม่สามารถนำมาใช้กับตัวเองได้ ยิ่งบางแนวคิดนี่ออกๆจะต่อต้านซะด้วยซ้ำไป ยิ่งพวกแนว Successfully Story ทั้งหลายนี่จะไม่ค่อยกินเส้นกัน
แต่จากที่เทรนมาสองวัน (ณ ตอนเขียนวรรคนี้) ยังรู้สึกประทับใจในแนวคิดนี้หลายๆเรื่อง อย่างน้อยก็ทำให้ไม่รู้สึกต่อต้าน เพราะมันไม่ได้มาบอกว่าเราต้องทำอะไร ไม่มีถูกหรือผิด เพียงแต่ให้เราคิด ตัดสินใจ วางแผนให้มากขึ้น ซึ่งผลสุดท้ายแล้วเราอาจจะตอบสนองมันไปเหมือนเดิม (ตอนที่ไม่ได้คิดอะไรให้มันวุ่นวาย) ก็ได้
แต่หลายๆเรื่องสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ อย่างเช่นเรื่องการตัดสินคน/การกระทำเมื่อแว๊บแรกที่เราเห็น อาจส่งผลต่อกริยาที่เราแสดงออกไป ถ้าสิ่งที่เราคิด นั้นไปในทางบวกก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าสิ่งนั้นเป็นไปในแง่ลบเราควรคิด ก่อนซักเล็กน้อยก่อนที่จะ Response มันออกไป แต่ซึ่งถ้าเราคิดแล้วแล้วเห็นว่ามันลบจริงๆ ก็แสดงออกอย่างที่เราอยากทำมันต่อไป แต่อาจจะมีบ้างที่มันคงทำให้เรามองเห็นว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นจริงๆไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด …
อีกอย่างคือการมีเป้าหมายก่อนที่จะลงมือทำ .. เพื่อที่จะได้รู้ว่าจะทำอะไร ด้วยวิธีการไหน เป้าหมายถึงจะสำเร็จ … อันนี้ถ้าเป็นเรื่องเรียนหรือเรื่องงานค่อนข้างจะชัด เพราะบางคร้งเป้าเหมายก็ถูกกำหนดมาจากคนอื่น จากสังคม จากกฏเกณฑ์อย่างกลายๆ ทำให้เรามองเห็นก่อนจะทำอยู่แล้ว เรียนให้ได้เกรดดีๆ ทำงานนู่นนี่ให้ทัน ตามกำหนดเวลา .. แต่มันก็มีอีกด้านของตัวเองที่อยากทำอะไรไปตามอารมณ์ ไม่มีเป้าหมายมากมาย ไม่มีเหตุผลรับรองตอนทำ (แต่หาที่หลังได้ไม่ยาก)
… ถ้ามีคำถามว่า อยากให้คนพูดถึงเรายังไงเมื่อเราตายไปแล้ว ? … แล้วเราจะทำอย่างใรถึงจะเป็นอย่างที่เราอยากได้ (อันนี้ความรู้สึกอีกด้านกำลังบอกว่า
แล้วสนใจอะไรกับคนอื่นล่ะ ? แค่เรามันใจว่าถึงเวลานั้นแล้วเราไม่เสียใจก็พอ เรามีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดมาก็พอแล้วไม่ใช่หรอ) อันนี้ต้องมา Discuss (กับตัวเอง) กันอีกยาวว ..
เรื่องต่อมาที่ชอบคือเรื่องการแบ่งลำดับความสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่เราจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่เร่งด่วนกมากกว่าสิ่งที่สำคัญ … ซึ่งบางครั้งทำให้เราทำอะไรที่เร่งด่วนๆทั้งหลายโดยที่มันไม่มีความจำเป็นต้องทำคือไม่ไม่สำคัญ (ส่วนเรื่องที่ทั้งสำคัญและเร่งด่วนก็ทำไปเถอะ) และเราควรจะอยู่ กับสิ่งที่สำคัญมากกว่าสิ่งที่เร่งด่วน อันนี้ค่อนข้างเห็นได้ชัด ลองได้อยู่กับอะไรเร่งด่วนๆตลอดเวลา มันเหมือนมีแรงโน้มถ่วงมากกว่าปกติ
คล้ายไปอยู่ดาวอังคาร (มันหนักกว่าใช่ป่ะ) มันทำให้เราเหนื่อย ถ้าสามารถทำสิ่งที่สำคัญได้แต่เนิ่นๆ หรือล่วงหน้า พอถึงเวลามันก็แค่สำคัญ แต่ไม่เร่งด่วนแล้วเพราะเราทำเสร็จหมดแล้ว …
อีกเรื่องนึงคือการ Think Win-Win อันนี้รู้มานานมากแล้วว่าควรทำแต่เอาเข้าจริงยังนำไปปฏิบัติได้ยากอยู่ เพราะการคิดอะไรเผื่อคนอื่นก่อนคิดถึงตัวเอง มันขัดกับสิ่งที่ปฏิบัตืมาอย่างเสม่ำเสมอ .. คือโดยปกติเราต้องหาทางให้เราทำสำเร็จก่อน ถึงจะคิดต่อว่าช่วยให้คนอื่นสำเร็จด้วยได้มั๊ย.. ซึ่งมันก็ดี
แต่ถ้าคิดถึงคนอื่นก่อนเลยว่ามี win win รึป่าวเนี่ยคงต้องฝึก ? แต่ก็ไม่ใช่ทุก Case และไม่ใข่กับทุกคนที่เราจะคิดแบบนี้ได้ ..
January 3, 2008
vov ไม่แน่ใจว่าจะเข้ามาอ่านอีกทีตอนไหน
แต่ขอเม้นท์ไว้ให้กะลังใจตัวเองดีกว่า..เหอๆ