วีซ่าเมกา

เพิ่งจะไปทำวีซ่าอเมริกามา (aka. เมกา) เอาไว้ไปเยี่ยมหลาน เลยขอจดไว้นิดนึง …

คำเตือน คำถามที่ใช้สัมภาษณ์ของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน ไม่แนะนำให้คาดว่าจะเจอคำถามน้อยแบบนี้

 

เอกสาร

กรอกใบสมัคร (DS-160)… คำถามส่วนใหญ่ สั้น กระชับ ตอบง่ายกว่าเมื่อเทียบกับ UK รูปถ่ายต้องเตรียมไฟล์ Digital ไว้ด้วยเพื่ออัพโหลดไปที่ใบสมัคร เอาสะดวกก็ไปถ่ายที่ร้านแล้วก็ขอไฟล์เค้า (แน่นอนว่าจ่ายตังเพิ่ม)

…  เมกานี่ตรงที่ ให้เตรียมเอกสารที่คิดว่าจำเป็นที่จะพิสูจน์ว่าตัวเองจะกลับมาไทยมาให้ดู … มันยากตรงนี้แหล่ะ คือไม่ระบุชัดว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง ส่วนตัวเตรียมดังนี้

  • ใบรับรองการทำงาน + ระบุเงินเดือน + ระบุวันลา จะดีมากถ้ามาประโยคอย่างเช่น หลังจากครบกำหนดแล้วจะกลับมาทำงานตามปกติ
  • Bank guarantee + Bank statement
  • สลิปเงินเดือน 3 เดือนย้อนหลัง
  • ทะเบียนบ้าน (ไม่รู้เอาไปทำไมเหมือนกัน 55+)
  • สำเนาพาสปอร์ตของคนที่เราจะไปเยี่ยม
  • พาสปอร์ตทุกเล่มที่มี
  • รูปถ่าย 2×2 นิ้ว

 

เมื่อกรอกใบสมัครเสร็จ ก็ทำเรื่องจ่ายเงิน .. ตัวเองไปจ่ายด้วยเงินสดที่แบงค์กรุงศรีฯ หลังเที่ยงวันถัดไปจะสามารถทำการนัดสัมภาษณ์ได้

 

วันสัมภาษณ์

นัดสัมภาษณ์รอบ 7.30 ซึ่งเดินชิลๆไปถึงสถานที่ก่อน 7 โมง ซึ่งก็พบว่ามีคิวยาวพอสมควร (20 คน++) สำหรับรอผ่าน Security เข้าไป จากที่สังเกตุก็พบว่า คนรอบ 8 โมงก็มาต่อแถวกันพอสมควร เลยทำให้แถวยาวเกินความจำเป็น กว่าจะผ่านแถว Security เข้าไปได้ก็กินเวลาเกือบ 20 นาที ข้างในมีกาแฟดอยดุงขาย แต่ว่าเสียเวลากับฝ่าด่านความปลอดภัยนาน พอเข้าไปเค้าก็แทบจะเรียกคิวทันที

  • กระเป๋าใบเล็กๆเค้ายอมให้เอาเข้าไปได้
  • โทรศัพท์มือถือห้ามเอาเข้า และยอมให้ฝากได้แค่คนละเครื่องเท่านั้น
  • กระเป๋าตังค์และกุญแจรถเอาเข้าไปได้
  • ควรมีปากกาเข้าไปจดรหัส EMS ที่เอาไว้ Track status ด้วย

..ด้วยความที่ชิลเกิน คือตัวเองไม่ได้เอาปากกาไป เลยต้องนั่งท่องเลข EMS เพราะหลังจากเสร็จกระบวนการ เราจะไม่ได้เห็นเลขนั้นอีก 555+ ดีว่าเลขสวยเลยจำไม่ยาก

พอเรียกคิวตามรอบแล้ว จะมี 3 ขั้นตอน คือ

  1. จนท. คนไทยเรียกดู passport กับใบนัด โดยจะแยกออกมาใส่แฟ้มตังหาก
  2. เข้าไปในอาคาร ต่อคิวเพื่อตรวจเอกสาร ยื่นแฟ้มจากข้อ 1 ตรวจสอบชื่อสกุล เช็คประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ
  3. ต่อคิวสัมภาษณ์ ยื่นแฟ้มจากข้อ 1 ถ้าเค้าขอเอกสารเพิ่มเติมค่อยให้ดูในขั้นตอนนี้

กระบวนการทั้งหมดกินเวลาประมาณ 1 ชม.

 

สัมภาษณ์อะไรบ้าง ?

คนสัมภาษณ์ทุกคนเป็นชาวต่างชาติที่พูดไทยได้ พอถึงคิวของตัวเองเค้าถามว่า

  • ไปทำอะไร … อันนี้ตอบว่าไปเที่ยวกับไปเยี่ยมหลาน
  • ไปเมื่องไหน … ก็ตอบไป
  • เคยไปประเทศอื่นมาหรือไม่  … ก็ตอบไป พร้อมกับขอดู Passport เล่มเก่า กับถามว่าไปทำอะไรที่ประเทศนั้น ก็ตอบไป
  • จะไปอยู่เมกานานเท่าไหร่ … อันนี้ตอบ 2 weeks

เป็นอันว่าจบของตัวเอง ใช้เวลาน้อยกว่า 2 นาที ซึ่งเค้าไม่ขอดูเอกสารใดๆที่เตรียมไปเลย (อาจจะเป็นเพราะหน้าตาดี)  … ส่วนตัวคิดว่า ถ้าตอบเป็นภาษาอังกฤษได้ตอบเป็นอังกฤษไปเลยจะชิวกว่าเยอะ คิดว่าที่เค้าถามน้อยๆเพราะส่วนนึงตอบเป็นภาษาอังกฤษด้วย (มั้ง)

แต่ๆ ตอนตอนที่ยืนต่อแถวรอสัมภาษณ์ก็จะได้ยินคำถามออกมาบ้างเป็นระยะๆ (ถ้าคนสัมภาษณ์เปิดเสียงดัง) พบว่า เค้าถามคืนอื่นๆดังนี้

  • ทำงานอะไร ทำมากี่ปีแล้ว
  • ใครออกค่าใช้จ่ายให้ ขอดูหลักฐานทางการเงิน
  • ไปเที่ยวเมืองไหน กับทัวร์รึเปล่า ทัวร์ชื่ออะไร
  • ถ้าไปเป็นครอบครัวก็เหมือนจะถามครบทุกคน คือให้เจ้าตัวแต่ละคนตอบเองทุกคน แล้วครอบครัวทุกกลุ่มเหมือนจะถามละเอียดมาก
  • ไปกับใคร ไปนานเท่าไหร่ มีหลักฐานทางการทำงานมั๊ย

เพราะดูเหมือนหลักฐานที่เตรียมๆไปก็อาจจะได้ใช้ ถ้าเค้าจะขอดู ส่วนใหญ่ใช้เวลากันประมาณ 5 นาที/คน

 

… จบ

OTP ของบัตรเครดิตปลอดภัยจริงหรือ ?

เพิ่งเจอช่องโหว่กับตัวเองมาสดๆร้อนๆเลย ขอเริ่มเลยละกัน

เมื่อวานได้จองตั๋วเครื่องบินกับสายการบิน Emirates ซึ่งก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ..

จนกระทั่งถึงขั้นตอนชำระเงิน ก็จ่ายเงินผ่านบัตรดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) แบบ Visa ซึ่งก็กรอกข้อมูลเหมือนเว็บอื่นทั่วๆไป เลขที่บัตร ชื่อ นามสกุล วันหมดอายุ เลข ccv

หลังจากนั้นก็เข้าสู่หน้าจอ Request OTP ซึ่งมีโลโก Visa กับ SCB หลังจากกดขอรหัสผ่านไป .. ผ่านไป 20 วิ ยังไม่ได้รับ SMS

กด Request ซ้ำอีกที .. ก็ยังไม่ได้รับ SMS…. กดซ้ำอีกที จนปุ่มแม่ง disbale ไปล่ะ .. ก็ยังไม่ได้ SMS

ถึงจุดนี้ก็โทรหา Call center SCB ล่ะ ว่าทำไมไม่ได้ SMS … จนท.ก็ตรวจสอบนู่นนี่

บอกว่าระบบส่ง OTP ออกมาแล้ว 3 ครั้ง เค้าทำอะไรให้ไม่ได้ อาจจะเป็นที่เครือข่ายโทรศัพท์ (ถึงจุดนี้บางคนอาจจะโดนให้ช่วยลองส่ง sms ล่ะ) .. เบอร์ที่ใช้อยู่เป็น AIS .. (คือแม่งมีหลาย Party มาก ไม่รู้จะเริ่มด่าใครดี) แต่หลังจากลองๆ SMS ก็ยังทำงานได้ปกติ รับเข้าส่งออกได้

นั่นมันเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น คือพอไม่ได้ SMS ก็ทำอะไรต่อไม่ได้ เลยกด Cancel ออกมา .. หน้าจอของ Emirates ก็ขึ้นว่า error อะไรซักอย่าง จำไม่ได้ ซึ่งก็คาดเดาได้ เพราะทำรายการไม่สำเร็จ

หลังจากนั้นก็เริ่มจองตั๋วใหม่ … พอจองๆไปได้ครึ่งทางก็มี SMS เข้ามา .. ตอนแรกก็เดาว่าเป็น OTP ที่มาช้า

แต่ไม่ใช่มันเป็น SMS ที่บอกว่า Transaction สำเร็จ (วงเงินหายไปเท่าราคาตั๋ว)

เจอ SMS นี่เข้าไปก็ชอค !!! โทรหา Call center อีกที …  จนท.ก็โอเคนะขอทำ 3 สายกับทาง Emirates .. ผลปรากฏว่า Emirates ยืนยันว่ารายการสำเร็จ ชำระเงินเรียบร้อย …. แต่ว่า เฮ่ย … กรูไม่ได้กรอก OTP นะ .. แถมกด Cancel ด้วยซ้ำ ทำไมมันสำเร็จวะ ???

 

หลังตรวจสอบว่าได้ตั๋วแล้วจริงๆก็กลับมาถามจนท. SCB อีกทีว่าทำไมไม่กรอก OTP แล้วรายการยังสำเร็จ ?

คำตอบที่ได้จากจนท.คือ “มันแล้วแต่เว็บไซต์ว่าจะดู OTP หรือไม่ บางเว็บไซต์อาจจะดูแค่ว่า CCV ถูกต้องก็ให้ทำรายการแล้ว

คือแบบ … จากที่เคยคิดว่า OTP (ที่แลกมาด้วยความยุ่งยาก) จะปลอดภัยขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย … แสรสส

 

สุดท้ายนี้ก็ดูแลเลข ccv หลังบัตรให้ดีๆกันครับพี่น้อง 😉

Scroll to top