Al Majlis : Moroccan Restaurant

เมื่อวานตรงกับศริสมาสต์พอดี .. ได้ไปลองร้านอาหารใหม่ใกล้ๆออฟฟิตแถวอโศก

ร้านชื่อ .. อัลมาจริส .. (มั้ง) เป็นร้านอาหารโมรอคโค (ออกแนว อาราบิค 1 2 3 4 5 6 7 8 9 0)

Al-Majlis-015

ไปกัน 5 คน รู้แค่ร้านอาหารโมรอคโค .. ไม่ได้ทำการบ้านมาก่อน อาหารทีได้ก็เลยงูๆปลาๆ เน้น Signature Dish กับพยายามจะสั่งอะไรที่ไม่รู้จัก

คือชื่ออาหารนี่ไปตาม Search เอาทีหลังนะ .. ตอนสั่งนี้ ไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นไง

จากแรก Arabic Chicken and grilled vegetable cous cous
จากแรก
Al-Majlis-001
จานนี้คือ Arabic Chicken and grilled vegetable cous cous

 ไอเจ้า cous cous เป็นหมือนข้าวของเค้าอ่ะ (คล้ายๆโจ๊กซองๆเอาไปทำให้แห้ง)

ชาบูคิง .. ห่วย

ไม่ได้ดราม่าลงบล็อกนานล่ะ ขอซะหน่อยละกัน

วันนี้มื้อเที่ยงไปกิน ชาบูคิง (Shabu-king) สาขา ประสานมิตรพลาซ่ามา …

 

สิ่งที่ได้เจอคือ ..

โต๊ะใหญ่เต็ม ต้องนั่งแยกกัน …

หมูนุ่มหมด .. กุ้งหมด พนักงานบอก แปะบอกไว้หน้าร้านแล้วนะ !! (แล้วก็มีของหมดอีกสองสามอย่าง)

และที่สำคัญคือ

ในเว็บบอกว่ามีโปรโมชัน มา 3 จ่าย 2 .. เลยไปกัน 6 คน ปรากฎว่าไปถึงที่ร้าน .. มีโปรโมชัน มา 4 จ่าย 3 .. เลยลดได้คนเดียว เศร้ากันไป

พนักงานบริการก็ไม่ดี .. ไม่คุ้มกับ Service Charge ที่จ่ายเลย

 

บ่นๆๆๆๆๆ

 

Dine in the Dark : เมื่อตาที่มีอยู่ดูไม่เห็นอะไร

วันนี้มีโอกาสไปลองกินร้านอาหารร้านนึงที่ชื่อว่า Dine in the Dark หรือเค้าเรียกย่อๆว่า DID


ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อร้านนี้ คือหัวหน้าที่มาจากอังกฤษเค้าไปกินมา แล้วมาเล่าให้ฟัง ..

 

แน่นอนว่าเรื่องกินนี่ถึงไหนถึงกันอยู่แล้ว วันนี้เลยได้มีโอกาสไปลองมา

 

เริ่มจาก ห้องอาหารนี้ มีคอร์สให้เราเลือกได้แค่สามอย่าง คือ อาหารไทย, International หรือมังสะวิรัติ

 

กับเพิ่มเติมได้ว่าไม่กินอะไรบ้าง … แค่นั้น !!

 

หลังจากเลือกอาหารและเครื่องดื่มเสร็จ .. สิ่งที่ต้องทำคือเอาโทรศัพท์มือถือใส่กล่องล็อคเก็บไว้ข้างนอก

 

แล้วจะมีพนักงานเสริฟ ซึ่งที่นี่จะเรียกว่าไกด์ .. มาพาเราเข้าไปยังโต๊ะอาหาร พร้อมทั้งจะเป็นบริกรให้เรา ดูแลเราตลอดมือนี้

 

ซึ่งไกด์ทุกคนที่นี่ เป็นคนตาบอด !!!  … ครั้งนี้ที่ไปได้ “พี่หมู” มาเป็นไกด์ให้

 

เริ่มจากเดินเกาะไหล่พี่หมู เดินเข้าไป เลี้ยวซ้าย .. เลี้ยวขวาอีกนิดหน่อย รู้สึกอีกทีก็ไม่สามารถมองเห็นอะไรแล้ว

 

ที่ว่ามองไม่เห็นนี่คือมองไม่เห็นอะไรเลยจริงๆนะ มืดกว่าที่เคยเจอมาทั้งหมด … ชนิดที่ว่าเอามือมาโบกๆข้างหน้า ยังไม่เห็นด้วยซ้่ำไป

 

หลังจากเดินเกาะๆมานั่งที่โต๊ะ พี่หมูก็จะแนะนำสิ่งที่อยู่บนโต๊ะ .. ด้านซ้ายเป็นซ้อม ด้านขวามีมืดกับช้อน ถัดไปอีกนิดเป็นผ้ากันเปื้อน

 

ถัดไปด้านบนอีกนิดจะเป็นแก้วน้ำเปล่า .. ซึ่งหลังจากนั่งหายใจและทักทายกันแป๊บนึง พี่หมูก็จะเอาเครื่องดื่มมาเสริฟ

 

แล้วตามมาด้วย Appetizer … ต้องบอกว่าตอนนั้นตื่นเต้น สิ่งที่ทำได้คือ เอาช้อนจิ้มๆลงไป แล้วเอามาแตะปลายลิ้น ..

Appetizer

 

ผมสั่งเซ็ต International .. Appetizer ที่รู้สึกได้คือ เส้นๆกรอบๆ (คิดในใจว่าเป็นฟาง) .. มีผัก น้ำราด แคนตาลูปด้วยชิ้นนึง กับปลาหมึก

 

ตอนกินนี่ถ้ามีกล้องถ่ายก็คงตลกพิลึก ..

 

บางคำตักเข้าปากโดยไม่มีอะไรเลย .. บางคำหมี่กรอบเต็มปากมูมมามม .. บางคำก็เป็นผักชิ้นใหญ่โค้งงอมาถึงจมูก

 

นั่งกินไปแป๊บนึงพี่หมูก็จะมาถามอยู่เรื่อยๆว่าเรียบร้อยมั๊ย รสชาติเป็นไงบ้าง กินอะไรเข้าไปแล้วบ้าง …

Main course

 

ถัดมาเป็นจานหลัก .. เป็นเป็ดในซอสอะไรซักอย่าง .. กับผัก … แล้วก็มีส้มสองชิ้น ..

 

จริงๆแล้วส้มเนี่ยมารู้ทีหลัง ตอนกินนี่ตกใจมาก .. อะไรดึ๋ยๆเอาลิ้นดันๆแล้วมีน้ำเปรี้ยวๆออกมาเต็มเลย .. แต่ว่าหาอีกก็ไม่มีแล้ว สนุกดี 🙂

 

ของหวาน .. เป็นครีม ข้างในเป็นไอติม .. ข้างๆเป็นฟรุตสลัด .. รสชาติแตกต่างกันสนุกปากดี

 

….

 

สรุปสิ่งที่ได้จากอาหาารมื้อนี้จริงๆคงอยู่ที่ึความรู้สึกมากกว่า .. เพิ่งรู้ว่าตาเราสามารถมองไม่เห็นได้ขนาดนี้ .. มันมืดมากก

 

ชนิดที่คำว่า มืดแปดด้าน ยังน้อยไปด้วยซ้ำ .. ไม่ต้องสนใจว่าอาหารหน้าตาเป็นไง .. ไม่ต้องเห็นอะไรทั้งนั้น

 

ประสาทสัมผัสอื่นๆทำงานได้ดีอย่างหน้าประหลาด … ตื่นเต้นในทุกๆคำที่ตักเข้าปาก 🙂

 

อีกอย่างที่รู้สึกได้ดีคือ เมือตอนอยู่ข้างนอก พี่หมูดูเป็นคนที่ต้องการความช่วยเหลือ .. แต่เมื่อเราเดินเข้าไปในดินแดนของเค้า …

 

เราตังหากที่ต้องการความช่วยเหลือ .. พี่หมูสามารถรินน้ำใส่แก้วได้อย่างพอดี ถ้าเป็นเราก็คงหกไปนานแล้ว

 

พี่หมูสามารถรู้ด้วยว่าอาหารที่ถือมาเป็นของใคร … พาเราเดินเข้าเดินออกร้านอาหารได้โดยไม่ชนแขกคนอื่นๆซักนิด

 

… สุดท้าย ก็ขอเชิญชวนนะคับ .. ลองมาเป็นคนตาบอดกันซักมื้อ .. คิดว่าแต่ละคนน่าจะได้อะไรไม่เหมือนกัน …

 

แล้วจะได้รู้จักความมืด .. ว่ามันมืดกว่าที่คิดจริงๆ 🙂

 

ปล. ข้อมูลร้านนี้ ดูได้ที่ http://didexperience.com/ หรือ https://www.facebook.com/DineintheDark

ปล2. ขออภัยที่รูปเป็นแบบนี้ .. แต่คิดว่ามันสื่อได้ดีกว่าอะไรทั้งหมดจริงๆ 🙂

All Around Leicester

หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปเร็วมาก … กับเมือง Leicester

 

เริ่มชินกับอากาศที่นี่มากขึ้นล่ะ ..  วันนี้เลยอัพอีกซักรอบละกัน ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางอาหารอ่ะนะ 😛

เจ็ดวันที่ผ่านมาลองอาหารไปเยอะมาก .. ลองมาดูกัน

 

วันเสาร์ … มื้อเช้า เป็นกาแฟ (ที่อัพไปคราวก่อน) แล้วหัวหน้าก็พาชมเมือง กลางวันกินไก่อะไรซักอย่างจำไม่ได้ ตกเย็นไปงานเลี้ยงวันเกิดเล็กๆของเพื่อนของหัวหน้าที่นี่ เป็นร้านอาหารอินเดีย .. ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารไว้เลย แต่อร่อยดี .. กินไวน์ไปหลายแก้ว ที่สำคัญ พอหัวหน้ามานั่งข้างๆ ดันทำไวด์หกใส่กางเกงเค้าอีก – -” จะได้เงินเดือนมั๊ยเนี่ย(กรู)

ไม่กล้าเอารูปคนลง .. ลงเป็นลายบนผ้าปูโต๊ะละกัน 🙂

วันอาทิตย์เช้า ฝนตกปอยๆ ออกไปเดินเล่นใกล้ๆ แล้วมื้อเช้ากิน Breakfast ธรรมดา … จำพวก ไข่คน มะเขือเทศ ขนมฟังปิ้งอะไรเทือกๆนั้น ไม่มีอะไรพิเศษ .. วันนี้หาของกินยากมาก สิบโมงแล้วร้านไม่ค่อยจะเปิดกัน กินเสร็จไปซื้อของซุปเปอร์มาตุนไว้ ..

ตกเย็น… ก็ขี้เกียจออก เลยอบอะไรกินไป หน้าตาประมาณนี้

วันจันทร์มีเทรนเกี่ยวกับโปรดักซ์ของบริษัท ที่รร.แมริออท เข้าไปเทรนร่วมกับลูกค้า มีเบรค พร้อมอาหารกลางวัน … Lamb Samosa อร่อยดี (แต่ดันถ่ายอะไรมาเนี่ย)

ตกเย็นไปกินอาหาร Italian ร้าน ASK Italian  .. Main Dish เป็น พิซซ่า .. ถาดใหญ่โครตตตตตตตต

Starter เป็น เห็ดใส้ชีท .. บนเพลตร้อน (จำชื่อไม่ได้)
Main course
ปิดท้ายมื้อนี้ด้วย Honeycomb Cheesecake

 

วันอังคารยังคงมีเทรนเหมือนเดิม อาหารรร. ตกเย็นไปกินอาหารฝรั่งเศษ ร้าน Le Bistrot Pierre จัดปลา Sea bass ไปเบาๆ เพราะเมื่อวานเจอพิซซ่าไปแล้ว โหดเกิ๊นน

Starter .. เป็นตับหมูบดกับอะไรนิดหน่อย
Sea bass
ก็ต้องมีอะไรแก้เลี่ยนกันบ้าง

วันพุธ .. เข้าออฟฟิตวันแรก .. มื้อเช้าทำกินเองที่อพาร์ตเมนท์ ตอนเที่ยงไปกินเบอร์เกอร์ที่ร้าน Mirch Masala .. ที่ฮาคืออยากลองว่าที่ทำงานเค้ากินไรกัน .. จัด Burgers Vegetarian ไป.. รสชาตแปลกดี แต่ขอเนื้อหน่อยจะดีกว่า

 

ตกเย็นไปลองร้านอาหารจีน Taste of China … จานมันใหญ่เวอร์ กินข้าวไข่อะไรซักอย่างกะกุ้ง .. กินไม่หมด ท้องจะแตก

สองคนกินจะหมดมั๊ยเนี่ย ... 6.xx ปอนด์

วันพฤหัสเช้าไปกิน Cafe Nero .. มอคค่าร้อนกะครัวซอง … ธรรมดาๆ วันนี้เดินไปออฟฟิตวันแรก เลยรีบๆนิดๆ ตกเที่ยงพระราชินีอังกฤษเสด็จมาที่เมือง เลยไปซื้อ Subway กินจะได้รีบเดินไปดูบรรยากาศ .. ที่นี่พักเที่ยงกันแป๊บเดียวมาก ทุกคนจะรีบกินรีบกลับมาทำงาน เลยถ้าจะไปดูควีนนี่ต้องรีบแบบเดินไปกินไปเลยทีเดียว .. ไปถึงก็ไม่ได้เห็นหรอก .. แต่บรรยากาศมันจะเป็นลักษณะเหมือนดารามากก จากเมืองเงียบๆนี่ทุกคนออกมาจะดูประหนึ่งดารา Hollywood อะไรประมาณนั้น ถ่ายขบวนพาเรดรับเสด็จมาได้หน่อยนึง ดูได้ที่นี่ Parade for the queen of england

 

ตกเย็นไปกินร้านอาหารไทย Emerald Thai Restaurant ..

ข้าวเกรียบ
ไม่ต้องมี Starter, Main course อะไรทั้งสิ้น .. เอามาพร้อมกันเลย !!

ทั้งหมดนี่ 37 ปอนด์ .. คร่าวๆก็เกิน 15oo บาท !!!  (เด็กเสิร์ฟเป็นนักเรียนไทยที่นี่ ตอนแรกก็คุยภาษาอังกฤษกันอยู่นาน O_o)

จดออร์เดอร์เป็นภาษาไทยด้วย !!

โอเค .. พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวค่อยมาอัพใหม่ .. อาทิตย์นี้ไปเที่ยวลอนดอน หวังว่าจะมีอะไรมาเล่าอีก 🙂

 

Surely : Pub & Restaurant

 

ร้านนี้เพิ่งเปิดสดๆร้อนๆ ไม่น่าจะเกินสองอาทิตย์ … แปลงร่างมาจากร้านลาบเป็ดมื่อก่อน ได้แต่ขับผ่านหลายทีจนต้องนัดเพื่อนๆมากัน ..

 

ร้าน Surely เป็นสไตล์ Pub & Restaurant บรรยากาศร้านถือว่าใช้ได้ โต๊ะห่างๆกันดี ลมเย็นๆ แถมใกล้บ้านมากกกก

 

ร้านอยู่ริมคลองประปา ถ้ามาจากดอนเมืองไม่เกิน 20 นาที

 

อาหารราคากลางๆค่อนไปทางสูง แต่ร้านเพิ่งเปิดเลยลดค่าอาหาร 30% รสชาติอาหารถือว่าค่อนข้างอร่อยเลยทีเดียว

 

แต่ที่เห็นได้ชัดคือ ราคาเบียร์ค่อนข้างถูก Heineken Tower นึงไม่ถึง 400 บาท … เลยจัดไปหลายเลย (แต่เหมือนตอนเช็คบิลดันบอกว่ามีช้างมาด้วย – -“)

 

รวมๆถือว่าโอเค สำหรับร้านใหม่ พนักงานยังดูเก้ๆกังๆ ที่จอดรถก็ยังไม่ค่อยเรียบร้อย วงดนตรีใช้ได้ แล้วก็เหมือนจะมีห้องคาราโอเกะด้วย

 

… ลองดูรูปกัน …

 

มองไปเวที
มีโซนใต้หลังคา
ห้องน้ำ
เก้าอี้สไตล์รังนกเก๋ๆไว้นั่งเล่น

 

ขอปิดท้ายด้วยรูปไฟจากข้างๆหลังคาของร้านดูไปดูมาก็เพลินดี

 

ปิดท้าายด้วยแผนที่

[mappress mapid=”13″]

 

Scroll to top