Bad week

เซ็ง . . . .
 
ปวดหัว ไม่สบาย โปรเจคไม่เดิน วันนี้มี Job Fair แต่รถจอดก็ดันโดนปล่อยลมยาง  เซง ก็ต้องขอบใจออมที่มาช่วยเปลี่ยนยาง …
 
 
 
 
ปล. นี่กรูไปสร้างศัตรูไว้ที่ไหนวะเนี่ย …

Phukradung

Prukradung Trips
 
การเดินทาง : รถโดยสารจาก หมอชิต – ผานกเค้า จ.เลย ต่อด้วยรถสองแถว และเดินเท้าขึ้นภูประมาณ 5 กม. แล้วเดินทางราบต่ออีก 3.8 กม. รวมประมาณ 9 กม. ถึงที่ทำการอุทยาน
 
ผู้ร่วมเดินทาง : ป้อม นุ๊ก ปาล์ม กุล + แว่น
 
ระยะเวลา : บนภูกระดึง 4 วัน 3 คืน
 
ค่าใช่จ่าย : ประมาณ 2,000 B / คน
ที่พัก : เต้นขนาด 5 คน 250 บาท / คืน
 
หมอน ผ้ารองนอน ผ้าห่ม เสื่อ : อย่างละ 20 บาท / คืน
 
ค่าลูกหาบ : 15 บาท / กก.
 
ค่าเข้าอุทยาน  : 40 บาท / คน ( นักศึกษายื่นบัตรเหลือ 20 บาท / คน )
 
ค่าค้างคืน : 30 บาท / คน / คืน
 
ค่ารถ : 358 บาท ขาไป ขากลับบวกอีก 50 บาท
สถานที่ท่องเที่ยว : ผานกแอ่น ผาหมากดูก ผาหล่มสัก ผาแดง ผาเหยียบเมฆ ผมนาน้อย สระแก้ว น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำใหญ่ ฯลฯ
 
 

Different

 
😛 ได้เขียนหลายวันเลย วันนี้อารมณ์อยากเขียนอะไรก็ไม่รู้ เลยมาอัพสเปซหน่อยดีกว่า หลังจากพึ่งกลับจากไปส่งพี่ที่สนามบินใหม่มา
 
เพิ่งจะเคยเข้าไปที่อาคารผู้โดยสารครั้งแรก แต่รู้สึกว่าจะไม่ใหญ่อย่างที่คิดแฮะ การที่มันรวมเอาอาคารต่างประเทศกับภายในประเทศไว้ที่เดียวกัน
 
กลับทำให้รู้สึกว่าน่าจะสร้างให้ใหญ่กว่านี้อีกเยอะ แต่จิงๆแล้วส่วนที่ใหญ่ขึ้นมากๆ คงเป็นส่วน Gate ที่จะไปขึ้นเครื่องมากกว่าดูจากแผนที่แล้ว ก็เยอะอยู่
 
แต่ส่วน Check-in ไม่ได้ใหญ่ขึ้นซักเท่าไหร่เลย… อีกอย่าง เรื่องห้องน้ำนี่สมคำล่ำลือจิงๆ เล็กมากแถมดูแล้วไม่ค่อยสมกับสนามบินดีๆเลย
 
 ห้องน้ำโรงหนังบางทียังดูดีกว่าอีก 😛
 

 
พอแระเรื่องสนามบิน มาเรื่องนี้บ้างดีกว่า วันนั้นไปเดินพันทิพย์ ก็ได้เจอเรื่องอะไรแปลกๆดี เรื่องแรกคือตอนเดินออกมาจากพันทิพย์
 
มีป้าคนนึงแกเข้ามาถามว่าฟังภาษาอิสานได้มั้ย เราก็บอกว่าฟังไม่ค่อยได้ ป้าแกก็ถามทางไปบางกอกน้อยหรืออะไรซักอย่างนี่แหล่ะ
 
ไอเราก็ไม่รู้ว่าจากตรงนั้นจะไปยังไง ก็บอกไปว่าไม่รู้ถามไปถามมาสุดท้ายมาลงที่คำว่า พอมีเศษตังให้ป้าบ้างมั้ย… ไอเราน่ะ ตังก็พอมีอยู่บ้าง
 
แต่ยังไม่ทันคิดก็บอกว่าไม่มีแล้วเดินออกมาเลย แล้วหันกลับไปดูป้าแกก็เดินกับเด็กผู้ชายอีกคน …. ตอนเดินก็คิดๆแล้วก็รู้สึกผิด ว่าทำไมไม่ให้เค้า
 
แต่อีกใจนึงก็รู้สึกว่าไม่อยากตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงคนโดยเอาความสงสารของคนอื่นเป็นเครื่องมือ สุดท้ายแล้วเราก็ไม่รู้หรอกว่าป้าคนนั้นไม่มีตังกลับบ้านจิงๆ
 
หรือว่าเดินขอเงินคนอื่นไปเรื่อยๆ  …
 

 
 
ตอนขากลับก็มีเรื่องให้สดุดอีกเรื่องนึง ก็คือ ซื้อตั๋วรถไฟฟ้าแล้วก็ขึ้นไปรอรถอยู่บนชานชลา ตอนเดินขึ้นไปก็เห็นมีผู้ชาย-หญิง สองสามคนยืนอยู่
 
เราก็ไม่ได้สนใจ แต่ดูๆเหมือนเค้างอนกันอยู่ (นี่ขนาดไม่สนใจนะเนี่ย เดี๋ยวๆ อย่าเข้าใจผิด ต้องอ่านให้จบก่อนแล้วจะรู้ว่าทำไมถึงเดาว่าเค้างอนกันอยู่)
 
เราก็เดินมารอรถตรงริมขอบ ยืนๆอยู่ก็เห็ผู้ชายคนนั้นลุกนั่งสักสิบครัง เสร็จแล้วคราวนี้ก็ลงไปวิดพื้น ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิด วิดพื้น พร้อมกับนับด้วย
 
 ไอเราก็ไม่กล้าจะฮามาก แต่ก็อะนะมองๆไปมันก็น่ารักดี ผู้ชายคนนึงกำลังวิดพื้นต่อหน้าผู้คนมากมายบนสถานีรถไฟฟ้าเพื่อขอคืนดี ทำไปได้…
 
เหอะๆ แต่รู้สึกว่าแฟนเค้าก็ไม่หายมั้ง … เอิ้กๆ
 
 


 
ปล.หวังว่าเพื่อนทุกคนคงสบายดีนะ ใครเป็นไงก็ส่งข่าวคราวกันบ้างนะ 😛

How to Connect GPRS via Bluetooth

 
บังเอิญว่า ได้ออกเดินทางไปต่างจังหวัดอีกครั้ง  แต่คราวนี้ได้พกเจ้า Notebook ไปด้วย อยู่ๆก็ครึ้มอกครึ้มใจอยากลองเล่นเน็ตผ่าน GPRS ดู
 
จำได้ว่าเคยจดวิธีเอาไว้ในเครื่อง และมันก็ใช้ได้ผล ก็เลยอยากตีพิมพ์(ฟังดูดีมะ) เอาไว้เผื่อใครจะสนใจ เอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ขอเพียงมี Notebook ซักเครื่อง
 
มือถือคู่ใจ และ Bluetooth เท่านั้นก็พอเพียง
 
เริ่มแรกก็ให้เสียบ bluetooth ในกรณีที่เป็น USB นะ ถ้าเครื่องไหน build-in ก็สบายใจ ลง driver ให้เรียบร้อย
 
เสร็จแล้วก็ไปที่ Network Connection เเล้วเลือก Create New connection 
 
เลือก Connect to the Internet >> Next
 
เลือก Set up my Connection manually >> Next
 
เลือก Connect using a dial-up modem >> Next
 
หน้าต่อมาให้เลือก Standard Modem Over Bluetooth Link >> Next
 
ต่อมาก็ใส่ชื่อตามใจชอบ และ Phone number ให้ใส่ *99***1# สำหรับ AIS นะ ถ้าเป็นเจ้าอื่นให้ตรวจสอบอีกที
 
ส่วน username กะ password ไม่ต้องใส่
 
เปิด bluetooth ที่มือถือ เพียงเท่านี้ก็สามารถเชื่อมต่อได้ทุกที่ที่ต้องการ 😛 On the Fly จิงๆ อิอิ
 
  >  
 
 

A little free time

 
เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับเทอมหนึ่ง หลังจากส่งงาน internet programming และสอบข้อเขียนของตลาดหลักทรัพย์เสร็จ  
 
หลังจากนี้ก็เหลืออีกเพียงเทอมเดียวเท่านั้น เราก็จะต้องออกไปเผชิญโลกกว้างจิงๆแล้วสิ วันเวลาชั่งผ่านไปรวดเร็วจิงๆ
 
 
 
สองสามอาทิตย์ที่ผ่านมาถึงแม้จะทำงานไม่เสร็จโดยสมบูรณ์แต่ก็ได้ทำตัวพักผ่อน ทำงานแบบสบายๆมาพักนึงแล้ว ทำงานไปด้วยว่างๆ
 
ก็ดูดาบมังกรหยกไปพลาง อิอิ จนบัดนี้ก็ดูจบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหลังจากส่งงานเสร็จ วันสอบข้อเขียนเพื่อเข้าทำงานที่ตลาดหลักทรัพย์
 
สอบเสร็จก็ได้มีโอกาสไปเดินงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติครั้งที่เท่าไหร่จำไม่ได้ ก็เดินๆดูไปก็ได้หนังสือติดมือมาเล่มนึง มันก็คือ Eragon
 
เป็นนิยายไตรภาคสไตล์เดียวกับ Lords of the ring และก็มีกลิ่นอายของ แฮรี่พอตเตอร์ปนเล็กน้อย มีเนื้อหาเกี่ยวกับตำนานของคนขี่มังกร 
 
ที่ต้องผจญภัย เอาชีวิตรอด และปกป้องเหล่ามนุษย์ที่กำลังถูกอำนวจมืดเข้าครอบงำ อ่านไปเล็กน้อยแล้วชวนติดตามอย่างยิ่ง
 
แต่เป็นที่น่าเสียดายที่สามารถอ่านได้เพียงสามวัน มันก็จบเล่มเสียแล้ว เลยเอาปกมาให้ได้ดูกัน แต่อันนี้เป็นปกฉบับภาษาอังกฤษ ซึ่งจิงๆก็แทบเหมือนกัน
 
ทุกประการ เกิดใครสนใจอยากอ่านก็บอกได้นะ เดี๋ยวเอาไปให้ยืม 😛 อืม แล้วเรื่องนี้ก็กำลังภูกสร้างเป็นภาพยนต์อยู่ด้วย รู้สึกว่ากำหนดการเข้าฉาย
 
ก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไหร่แล้ว ใครสนใจรายละเอียดหรืออยากดู Trailer ก็เข้าไปดูได้ที่
 

http://www.eragonmovie.com/

 
 
 
ปล. หวังว่าทุกคนคงสบายดีนะ 😛
 
 

Scroll to top