Android App : Locale ตั้งค่าเครื่องตามสภาพแวดล้อม

ได้เวลาเสียตังค์กันอีกแล้วว ..

จริงๆต้องขอเกริ่นก่อนว่าแอพตัวที่จะพูดถึงวันนี้ เป็นแอพที่แอบเล็งไว้ตั้งแต่ก่อนซื้อมือถือแล้ว (สมัยนั้นมันยังฟรีอยู่เลย)

แล้วอยู่ๆมันก็หายจาก Market ไปพักนึง .. สุดท้ายมันก็กลับมาแล้วว

แอพที่ว่าคือ  Locale  

สิ่งที่แอพตัวนี้ทำ เป็นอะไรที่พื้นฐานมากๆคือการตั้งค่าต่างๆของเครื่องตามสภาพแวดล้อม .. ยกตัวอย่างเช่น สั่งให้ปิดเสียงตอนอยู่ที่ทำงาน สั่งให้เปิด WiFi ตอนอยู่บ้าน .. ปรับความสว่างหน้าจอตอนออกไปข้างนอก เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งมือถือมันควรจะทำได้ตั้งแต่เกิดแล้วว

 

ไหนๆ ก็เคยพูดถึงการซื้อของในแอพของแอนดรอยด์ (In-app Purchase) ไปแล้ว คราวนี้เลยลองว่าด้วยการซื้อแอพจาก Android Market บนมือถือดูบ้าง

ในที่นี่ผมได้ผูกบัตรเครดิตกับ Google Checkout ไว้แล้วจึงไม่เห็นหน้าจอการตั้งค่า Google Checkout แต่รายละเอียดตรงนั้นไม่ยาก ลองทำตามๆคำแนะนำแป๊บเดียวก็ได้

ขั้นแรกก็เข้าไปที่แอพที่จะซื้อใน Android Market … จะเห็นราคาเป็นเงินบาทอยู่ในปุ่มสีน้ำเงินด้านบนขวา .. ต้องบอกก่อนว่าราคาตรงนี้เป็นราคาประมาณ แปลงมาจาก US Dollars ซึ่งเวลาคิดเงินจะเป็นเป็น $ แล้วบัตรเครดิตจะไปแปลงอีกทีตามค่าเงิน ณ สิ้นสุดวันนั้น

          

 

ขั้นต่อมาก็แค่กดปุ่มสีฟ้าที่ว่า .. ถือว่าเริ่มขั้นตอนซื้อ

ให้เช็ครายละเอียดกูเกิลแอคเคาท์กับบัตรเครดิต.. แล้วกด Accept & buy ซักแป๊บมันก็จะตรวจสอบแล้ว Download มาลงเองโดยอัตโนมัติ

พอดาวโหลดเสร็ตจะเห็นหน้าจอเหมือนด้านล่าง คือมีปุ่มให้เปิดแอพ .. หรือจะขอคืนเงิน (Refund) ซึ่งเราสามารถขอคืนเงินได้ภายใน 15 นาทีหลังจากกดซื้อ (เอาเข้าจริงๆ 15 นาทีนี่แทบยังไม่ค่อยได้ใช้เลย)  .. ก็เป็นอันเสร็จการซื้อแอพ (ง่ายเกิ๊น)

จบเรื่องรายละเอียดการซื้อ … มาลองดูตัวแอพกันบ้างว่ามันทำอะไรได้บ้าง ?

 

เข้าหน้าแรกมาจะเจอกับหน้าจอ Situation .. เอาไว้ดูว่าเราตั้งค่าไว้กี่สภาพแวดล้อม (ฟังดูแปลกๆเนอะ)  .. ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้ยังไม่มีเลย

สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือ กด Add Situation .. เพื่อตั้งค่าตามสถานการณ์ต่างๆ

ซึ่งการตั้งค่าก็จะมีสองส่วน ส่วนแรกคือเงื่อนไข (condition) เพื่อเช็คสภาพแวดล้อม ว่า พิกัด GPS เข้าข่ายรึเปล่า เช็ค WiFi เช็คเวลา ไรเงี้ย

         

อีกค่า คือค่าที่จะให้ปรับ (setting) ว่า ถ้าเข้าเงื่อนไขแล้วจะให้ปรับอะไร บ้าง เช่น ปรับแสง เปลี่ยนริงโทน ปิดสั่น เปิด WiFi เป็นต้น

                     

เมื่อเราตั้งค่าเสร็จกด Save ก็เป็นอันเสร็จสิ้น …  ซึ่งเราสามารถเพิ่มตัว Situation ได้เรื่อยๆตามแต่เราต้องการ ที่บ้าน ที่ทำงาน วัด เจอ WiFi คว่ำโทรศัพท์ ตอนกลางคืน ไรเงี้ย ตามสะดวก

พอเราสร้าง Situation แรกเสร็จ ตัวโปรแกรมจะขึ้นมาให้เราสร้าง Default Situation .. เพราะเวลาไม่เข้าข่าย Condition ไหนเลย .. โปรแกรมจะเปลี่ยนเครื่องเราให้กลับเป็น Default .. เพราะฉะนั้นค่านี้ก็คือค่าเดิมๆของเครื่องเราที่เราอยากให้เป็นตลอดเวลานั่นเอง

เมื่อเราตั้งค่าของ Default Situation เสร็จก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ ที่เหลือก็ให้มันทำหน้าที่ของมัน … เราก็จะได้ไม่ต้องคอยระวังว่าเวลางานจะทำให้เสียงโทรศัพท์รบกวนคนอื่น หรือเวลาออกมาข้างนอกแล้วก็ลืมเปิดเสียงจนไม่ได้ยิน .. ราคาก็ตกประมาณ 120 กว่าบาท คุ้มอยู่นะ 🙂

 

อ้อ .. อีกอย่างนึง เนื่องจากแอพนี้มีมานานมากก ตั้งแต่ยุคแรกๆเลย แล้วคนพัฒนาก็ทำให้รองรับ Plugin ได้ด้วย แปลว่าเราสามารถลง Plugin เพื่อเพิ่ม Condition / เพิ่ม Setting ได้ด้วย เช่น มี Plugin Twitter ให้ลองเล่น .. พอเราถึงที่ทำงาน (เช็คกับ GPS) ก็ให้ทวีตทันทีไรเงี้ย (โรคจิตเกิ๊น)

ซึ่งตัว Plugin มีให้ลองเล่นเพียบเลย ทั้งฟรีและเสียตังค์ .. ลองเล่นกันดูนะคร๊าบบ 🙂

 

Summary Info

Name : Locale

Developer two forty four a.m. LLC

Link https://market.android.com/details?id=com.twofortyfouram.locale

Size : Varies with device, Less than 1 MB on Galaxy S

Requires Android : 1.5 and up

Price : 3.99 $

ADSL Modem Router : Netgear vs Buffalo

 

พอดีว่า Router ตัวเก่าเพิ่งจะเอ๋อๆ ..  เลยไปถอยตัวใหม่มา Buffalo … มา ราคา 1150 บาทที่ IT Square อันนี้เน้นถูกเพราะว่าตัวโหลดบิตมี NAS อยู่แล้ว เลยไม่ต้องการ Feature อะไรเยอะแยะ

 

เลยลองเอามาเทียบกับตัวเก่า Netgear ดู

Netgear คือ รุ่น DG834G (version 5)

Buffalo คือ WBMR-HP-GNV2

ขอออกตัวล้อฟรีไว้ก่อนว่าทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวจากการใช้งานจริงของตัวเองนะคร๊าบบ 🙂

 

สิ่งที่ทั้งสองตัวทำได้

– ต่อ ADSL (แน่นอน เพราะมันเป็น Modem ทั้งคุ่ O_o)

– Lan 1 Gbps  x 4 port

– รองรับ WiFi Security WPA2 TKIP/AES

– WPS (ไม่ได้ใช้หรอก)

– มีเสาแยก

– Forward port (Virtual Server)

– Remote Management ( Config Router จาก Internet)

– Dynamic Domain (ex. Dyndns)

– Log

– Qos

– UPnP

 

 

Netgear DG834Gv5

ข้อดี : 

รูปร่างหน้าตา ขาวมุมมนๆสวยงาม เอาไว้โชว์ได้ เสาเล็กๆน่ารักๆ

ระบบ Access List / MAC Filtering ใช้งานง่ายกว่ามาก ตอน Add เข้า List สามารถใส่รายละเอียดได้ว่า MAC ไหนเป็นเครื่องไหน

ระบบ Log ถึงแม้ว่าจะแยกรายละเอียดได้ไม่เยอะเท่าอีกตัว แต่สามารถตั้ง Schedule ให้ส่งเมลได้ อันนี้เจ๋งมากสำหรับบ้านพักทั่วไป แล้วก็ log จะไม่หายไปจนกว่าจะ Restart Router

มี Domain ให้เข้าไป Config ด้วย คือ http://www.routerlogin.com ไม่ต้องเข้าด้วย IP Address

 

ข้อเสีย : 

เวลาเน็ตหลุดชอบทำให้เวลาของ router เพี้ยนไปด้วย ทำให้ดู log ไม่รู้เรื่อง

มีปัญหากับ อุปกรณ์ของ Apple บางตัวที่มองว่ามี package Dos จาก อุปกรณ์ยี่ห้อนั้น

 

 

 

 

 

 

 


 

 

Buffalo WBMR-HP-GNV2

ข้อดี : 

มีระบบ Eco ตั้ง Schedule ให้ปิดหรือทำงานแค่บางส่วน เพื่อประหยัดไฟ สั่งให้ปิดไฟ LED ได้

ระบบ Log สามารถตั้งให้ส่งไฟ Syslog server ได้

สามารถมีได้หลาย SSID / ใช้ AOSS ได้

Wireless n @ 150 Mbps

มี Dynamic Domain ให้เลือกมากกว่า (1 อัน)

 

ข้อเสีย :

Log เปิดดูแล้วบางทีก็หายไปเลย ถ้าอยากเก็บไว้ดูต้อง save ลงเครื่องมาเก็บไว้

เสาดูต้นใหญ่ 5dB แต่ดูเหมือนสัญญาณจะสู้ Netgear ไม่ได้ (เทียบจาก Router อยู่ชั้นสองแล้วเล่นจากมุมอัพในชั้นล่าง)

ระบบ DHCP โง่ไปหน่อย ถ้ามี IP ในวงที่ตั้งค่าเองไปแล้ว แต่อยู่ในช่วงที่แจก DHCP ด้วย ตัวนี้ไม่สนใจ .. ยังแจกให้เครื่องอื่นอีก #กาก

หน้า Config มีปัญหากับ Adblock ทั้งหลาย เพราะมี Class ชื่อ “AD_BODY” เลยทำให้พวกนั้นนึกว่าเป็นโฆษณา – -”

 

 

 

 

 

 


 

ใครมีอะไรสงสัยก็ลองถามมาได้นะคร๊าบบ  ตอนนี้เอา Netgear ตัวเก่ามาเสียบใช้งานแทน .. ตอนแรกนึกว่าเจ๊งเห็นเน็ตหลุดๆ แต่ที่ไหนได้ ปรากฏว่าเน็ตกากนั้่นเอง … สุดท้ายเรียกช่างมาดู ได้เปลี่ยนอุปกรณ์ทุกอย่าง ตั้งแต่กล่องขาวก่อนต่อเข้า Router / การ์ด DSLAM อะไรซักอย่างที่ชุมสาย แล้วก็สุดท้ายช่างเรียกให้อีกทีมมาเดินสายโทรศัพท์ในบ้านให้ใหม่ด้วย .. หวังว่าจะหายกากซักที 😛

 

ปล. จริงๆมี Router Linksys ตัวเมพพิมพ์นิยมอยู่อีกตัวที่เอามาลง Custom Firmware ทำเป็น Bridge อยู่ .. ไว้ว่างๆค่อยพูดถึงมันละกัน 🙂

Android App : Backup SMS to Gmail

พอดีว่าพึ่งจะลง Rom ใหม่ให้ Galaxy S อีกครั้ง .. แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ลืมนึกไปว่า SMS มันหายหมด .. เพราะเดี๋ยวนี้ SMS มันเก็บไว้บนเครื่องแล้ว ไม่ได้เก็บไว้บน Sim card เหมือนเมื่อก่อน (จริงๆยังเก็บในซิมเหมือนเดิมก็ได้ แต่ไม่มีใครใช้แล้ว)

 

หลังจากลงรอมใหม่เสร็จ (แน่นอนว่า SMS เดิมหายหมดแล้ว) ก็ดัีนเจอเจ้าโปรแกรมนี้  SMS Backup เจ๋งมวากกเลย

การทำงานอธิบายง่ายๆคือโปรแกรมทำการแปลง SMS บนเครื่องเป็นอีเมล แล้วใช้ Protocol IMAP ส่งไปเก็บไว้บน Gmail (นี่ง่ายแล้วหรอวะ)

 

โดยโปรแกรมจะทำการหาชื่อ (หรือ email) ของคนที่ส่ง SMS หาเราจาก contact .. แล้วก็เอาไปเป็น Sender ของ mail ที่ส่งไปเก็บด้วย

หน้า Settings

พูดง่ายๆก็คือ เราจะเห็นเหมือนว่าคนที่ส่ง SMS หาเราคนนั้น เป็นคนเมลมาหาเรานั่นเอง

 

สิ่งที่โปรแกรมนี้ทำได้อีกอย่างก็คือ มันจะปะ Label SMS (เปลี่ยนได้) ให้เราด้วย .. รวมทั้งยังสามารถ Mask as read อีเมลนั้นให้เราด้วย

Advance Settings

สุดท้ายก็เลยกลายเป็นการ Backup SMS ไปไว้บน Gmail อย่างสมบูรณ์

แถมหน่อยนึงว่า ถ้า Contacts ของเรามี Email คนนั้นๆอยู่ด้วย เราสามาารถ replay กลับไปทาง email นั้นได้เลยด้วยแหล่ะ

 

แถมวิธีการเปิดใช้ IMAP ของ Gmail 

– เข้า Gmail ของเรา

– เข้าหน้า Mail Settings

– เลือกแท็บ Forwarding and POP/IMAP

– เลือก Enable IMAP

– Save

วิธี Enable IMAP บน Gmail

 

Summary Info

Name : SMS Backup

Developer : Christoph Studer

Link https://market.android.com/details?id=tv.studer.smssync

Size : 223 KB

Requires Android : 1.5 and up / Gmail Acc with IMAP enabled

Price : Free

 

ครบรอบ 16 ปี Windows 95

จริงๆตั้งใจจะเขียนบล็อกนี้ตั้งแต่หลายวันก่อน .. เนื่องในโอกาส วันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา Windows 95 มีอายุครบ 16 ปี !!!

จำได้เพราะ Geek Calendar

เราก็ลองต้องเอาของมาปล่อยกันหน่อย

 

ของที่ว่าก็คือ แผ่น Windows 95 แผ่นแท้ !!!

 

ซึ่งได้มาพร้อมเครื่อง Compaq Presario 7152 สมัย 15 ปีก่อน

 

จำได้คร่าวๆว่าตอนนั้นเรียนคอม ตอนเรียนเรียน Windows 3.11 พอซื้อเครื่องเค้าลง Windows 95 มาให้

 

ปรากฏว่าใช้ไม่เป็น โทรไปให้เค้าเอากลับไปลง 3.11 มาใหม่ – -”

 

1 เดือนถัดมาก็รู้สำนึกว่า 95 มันดีกว่าเยอะ เลยให้เค้าลงใหม่อีกรอบ

 

ใช้ไปพักใหญ่ๆ ถึงได้เล่นเน็ตของพี่ของมอ. (สมัยนั้นอยู่หาดใหญ่)

 

เลยได้มี email ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา (แล้วก็เป็นอันเดียวกับที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ !!!)

 

สรุปว่า จะเอาแผ่นวินโดว์มาโชว์ แค่นั้นแหล่ะ 😛 … เป็น Diskette ทั้งหมด 15 แผ่น !!!

Copyright ยังแค่ 1995 !!
Thai Edition ด้วยน้าาา

 

ห่อเก็บไว้อย่างดี .. ขอย้ำว่าต่อห่อ เพราะมันมี 15 แผ่น 🙂
ใครอยากเอาไปลองลงบอกได้นะ เดี๋ยวให้ยืม 🙂
ว่าแต่เดี๋ยวนี้มันไม่มี Drive A แล้วหนิ 🙁

 

Hotspod.net กับ Podcast ภาษาไทย

ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นๆเรื่อง Podcast ก่อน .. เพราะสาวกแอนด๋อยอย่างเราๆจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับคำนี้กันซักเท่าไหร่

Podcast .. เอาตามความหมายพื้นบ้านแล้วเนี่ย มันก็เป็นเหมือนเทปรายการวิทยุ ที่อัดไว้ให้เราดาวโหลดมาฟังเวลาว่างๆ

โดย Podcast นั้นเริ่มต้นมาจากค่าย Apple ซึ่งเริ่มได้รับความนิยมมากบน iPod ซึ่งต่อมาก็มี Software ที่ฟัง Podcast บนอุปกรณ์อื่นๆออกตามมา  โดยของแอปเปิลนั้นจะมีมาพร้อมกับ iTune ให้เราได้เลือกดาวโหลด Podcast กันอย่างเยอะแยะมากมาย แต่ในความเยอะแยะมากมายนั้น มันกลับไม่มีภาษาไทยเลย คือมีน้อยมากถึงน้อยที่สุด ก็เลยเป็นจุดกำเนิดของเว็บแห่งนี้

 

.. นั่นก็คือ Hotpot .. เย้ย นั่นมันร้านสุกี้ …

.. นั่นก็คือ Hotspot .. นั่นมันก็เอาไว้ต่อ WiFi  – -”

.. นั่นก็คือ Hotspod .. เย้ย .. ถูกแล้ว (ฮามั๊ยเนี่ย)

 

สรุปว่าเว็บที่จะแนะนำวันนี้คือ Hotspod.net .. เป็นเว็บสร้างสรรค์รายการ Podcast

ตัวรายการบนเว็บนี้เอง ก็มีให้เลือกหลากหลาย .. คิดว่าน่าจะมีซักเรื่องที่ตรงกับเราๆท่านสนใจ

คงขอแนะนำกันไว้แต่เพียงเท่านี้ (ทำไมมันสั้นจังวะ)

หลายครั้งหลายครา ที่เราว่างแต่ก็ไม่มากพอจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน .. เช่น ขึ้นรถไฟฟ้า .. ฟังเพลงก็ได้ แต่บางอารมณ์มาฟังอะไรเป็นเรื่องเป็นราวก็ดีไม่ใช่น้อย หรือเวลาขับรถ เวลานั่งทำงาน .. ใช้แค่หูกับส่วนเล็กๆของสมอง .. ซึ่งทำให้เราสามารถทำอย่างอื่นไปด้วยได้  Podcast น่าจะมาช่วยเติมเต็มตรงนี้ .. ลองไปหามาฟังกันดูได้

ปล. Software บน Android ที่เอาไว้ฟัง Podcast .. มีชื่อว่า “Listen” สร้างโดย Google

Scroll to top