Project เสร็จแล้ววววววววว

 
โล่งใจสุดๆ ตอนนี้โปรเจคที่ทำมาอย่างยาวนานก็ได้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี หลังจากส่ง Document วันที่ 8 ก.พ. แล้วก็ Present + Demo วันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา
 
หลักจาก Present เสร็จก็ได้ไปฉลองกะเพื่อนๆเล็กน้อยเลือกไปเลือกมาก็ได้ไปกินอาหารญีปุ่นที่ห้องอาหารไดอิจิของรร. The Emeral ฟาดไปซะเต็มคราบเลย กลับมา
 
หอก็นอนเป็นงูเหลือมอยู่พักใหญ่…. กะว่าจะนอนให้เต็มอิ่มซักสองวัน ตื่นซักบ่ายสองอะไรเงี้ย
 
 
แต่เช้าวันนี้ (13 ก.พ. ) กลับตื่น เจ็ดโมงกว่าซะงั้น … ตื่นมาทำไมวะเนี่ย งานก็ไม่มีให้ทำ เรียนก็ไม่มี ความรู้สึกมันกลับกลายเป็นว่า เฮ้ย!! นี่ตูไม่มีอะไรทำเลยหรอวะเนี่ย
 
งานหนักๆมันหายไปไหนหมด ไอตารางเวลาที่คิดว่าตอนนี้ต้องทำอะไร ตอนนั้นต้องทำอะไรก็ไม่มี เอ…เราลืมทำอะไรไปรึป่าว ตื่นมาก็มานั่งงงๆกะตัวเองที่ว่างซะจน
 
ไม่รู้จะทำอะไรดี เพื่อนๆบางคนก็ยังมีงาน บางคนยังไม่ Present บางคนก็ยังเรียน แต่ทำไมตูว่างวะ ….. หุหุ หลายๆคนคงคิดว่าไอนี่.. งานหนักก็บ่น ว่างก็บ่น .. เหอะๆ
 
แต่ก็มันว่างจิงๆนี่หว่าให้ทำไง
 
 
อื้อ อีกเรื่องนึงก็คือ คืนก่อนวัน Present Project ได้แว๊บไปสนามบินตอนเกือบๆสามทุ่ม ไปส่งเจริญกะเฟื่องมา สองคนนี้มันได้ไปสัมภาษณ์งานที่ญี่ปุ่น
 
รู้จึกจะของบ.โตชิบามั้ง แถมงานในไทยมันก็ได้กันหมดแล้ว อนาคตไกลกันจริงๆเลยวุ้ย ก็ไปส่งมันพร้อมกะถ่ายรูปกันเล็กน้อย รู้สึกว่าจะมีเด็กลาดกระบังได้ไป
 
สัมภาษณ์ที่นุ่นด้วยประมาณสองสามคน 🙂
 

 

 
พรุ่งนี้ก็วันวาเลนไทน์แล้ว..ก็ขอให้ทุกๆคนมีความสุขกันมากๆละกัน วันแห่งความรัก … อิอิ รักกันมากๆนะ 😛
 
ปล.ช่วงนี้จะเริ่มเที่ยวแล้วนะ ใครจะไปไหนชวนด้วยๆ เพราะจะเริ่มงาน 1 เมษา แล้ว ต้องเพิ่มพลังชีวิตก่อนไปเริ่ม Mission ของชีวิต อิอิ
 
ปล. ก่อนวัน Present อ.ที่ภาคได้เอาอะไรมาให้อ่านกันขำๆเกี่ยวกะการ Demo งาน สำหรับใครที่ยังไม่ได้ Present Project ก็ลองดูสนุกๆละกัน อิอิ
 

 
 

Last 2 Month

 
คริสต์มาส … ผ่านไป
 
ปีใหม่ … ก็ผ่านไปแล้ว
 
วันเด็ก … ก็ผ่านไปแล้ว
 
บายเนียร์ห้อง 4 … ก็ผ่านไปแล้ว
 
บายเนียร์ภาค … ก็ผ่านไปแล้ว
 
ที่ทำงาน … ก็หาไว้แล้ว
 
วันเริ่มงาน … ก็กำหนดแล้ว
 
วันส่งโปรเจค … ก็ใกล้เข้ามาแล้ว
 
เวลาของการเป็นนักศึกษา … ก็กำลังจะหมดลง
 
อีกไม่กี่เดือนเอง เราก็คงต้องมีชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนไป
 
… ไม่ได้นอนเกือบๆเช้า แล้วตื่นเกือบเที่ยง
 
… ไม่ได้ใส่ซ็อป
 
… ไม่ได้เล่นเกมส์กะเพื่อนๆพี่
 
… ไม่ได้กินข้าวในโรงอาหาร
 
… ไม่มีสอบมิดเทอม
 
… ไม่ต้องอ่านหนังสือสอบ
 
ชีวิตจะเป็นไงน้อ …..ไว้ค่อยคิดละกัน
 
แต่ตอนนี้ภาระอย่างเดียวที่เหลืออยู่ คือ … โปรเจค อีกนิดเดียว อีกนิดเดียว …. หวังว่ามันจะเสร็จอย่างสมบูรณ์นะ 😛 สู้ๆ 
 
‘( ^ _ ^ )’
 

Bad week

เซ็ง . . . .
 
ปวดหัว ไม่สบาย โปรเจคไม่เดิน วันนี้มี Job Fair แต่รถจอดก็ดันโดนปล่อยลมยาง  เซง ก็ต้องขอบใจออมที่มาช่วยเปลี่ยนยาง …
 
 
 
 
ปล. นี่กรูไปสร้างศัตรูไว้ที่ไหนวะเนี่ย …

Phukradung

Prukradung Trips
 
การเดินทาง : รถโดยสารจาก หมอชิต – ผานกเค้า จ.เลย ต่อด้วยรถสองแถว และเดินเท้าขึ้นภูประมาณ 5 กม. แล้วเดินทางราบต่ออีก 3.8 กม. รวมประมาณ 9 กม. ถึงที่ทำการอุทยาน
 
ผู้ร่วมเดินทาง : ป้อม นุ๊ก ปาล์ม กุล + แว่น
 
ระยะเวลา : บนภูกระดึง 4 วัน 3 คืน
 
ค่าใช่จ่าย : ประมาณ 2,000 B / คน
ที่พัก : เต้นขนาด 5 คน 250 บาท / คืน
 
หมอน ผ้ารองนอน ผ้าห่ม เสื่อ : อย่างละ 20 บาท / คืน
 
ค่าลูกหาบ : 15 บาท / กก.
 
ค่าเข้าอุทยาน  : 40 บาท / คน ( นักศึกษายื่นบัตรเหลือ 20 บาท / คน )
 
ค่าค้างคืน : 30 บาท / คน / คืน
 
ค่ารถ : 358 บาท ขาไป ขากลับบวกอีก 50 บาท
สถานที่ท่องเที่ยว : ผานกแอ่น ผาหมากดูก ผาหล่มสัก ผาแดง ผาเหยียบเมฆ ผมนาน้อย สระแก้ว น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำใหญ่ ฯลฯ
 
 

Different

 
😛 ได้เขียนหลายวันเลย วันนี้อารมณ์อยากเขียนอะไรก็ไม่รู้ เลยมาอัพสเปซหน่อยดีกว่า หลังจากพึ่งกลับจากไปส่งพี่ที่สนามบินใหม่มา
 
เพิ่งจะเคยเข้าไปที่อาคารผู้โดยสารครั้งแรก แต่รู้สึกว่าจะไม่ใหญ่อย่างที่คิดแฮะ การที่มันรวมเอาอาคารต่างประเทศกับภายในประเทศไว้ที่เดียวกัน
 
กลับทำให้รู้สึกว่าน่าจะสร้างให้ใหญ่กว่านี้อีกเยอะ แต่จิงๆแล้วส่วนที่ใหญ่ขึ้นมากๆ คงเป็นส่วน Gate ที่จะไปขึ้นเครื่องมากกว่าดูจากแผนที่แล้ว ก็เยอะอยู่
 
แต่ส่วน Check-in ไม่ได้ใหญ่ขึ้นซักเท่าไหร่เลย… อีกอย่าง เรื่องห้องน้ำนี่สมคำล่ำลือจิงๆ เล็กมากแถมดูแล้วไม่ค่อยสมกับสนามบินดีๆเลย
 
 ห้องน้ำโรงหนังบางทียังดูดีกว่าอีก 😛
 

 
พอแระเรื่องสนามบิน มาเรื่องนี้บ้างดีกว่า วันนั้นไปเดินพันทิพย์ ก็ได้เจอเรื่องอะไรแปลกๆดี เรื่องแรกคือตอนเดินออกมาจากพันทิพย์
 
มีป้าคนนึงแกเข้ามาถามว่าฟังภาษาอิสานได้มั้ย เราก็บอกว่าฟังไม่ค่อยได้ ป้าแกก็ถามทางไปบางกอกน้อยหรืออะไรซักอย่างนี่แหล่ะ
 
ไอเราก็ไม่รู้ว่าจากตรงนั้นจะไปยังไง ก็บอกไปว่าไม่รู้ถามไปถามมาสุดท้ายมาลงที่คำว่า พอมีเศษตังให้ป้าบ้างมั้ย… ไอเราน่ะ ตังก็พอมีอยู่บ้าง
 
แต่ยังไม่ทันคิดก็บอกว่าไม่มีแล้วเดินออกมาเลย แล้วหันกลับไปดูป้าแกก็เดินกับเด็กผู้ชายอีกคน …. ตอนเดินก็คิดๆแล้วก็รู้สึกผิด ว่าทำไมไม่ให้เค้า
 
แต่อีกใจนึงก็รู้สึกว่าไม่อยากตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงคนโดยเอาความสงสารของคนอื่นเป็นเครื่องมือ สุดท้ายแล้วเราก็ไม่รู้หรอกว่าป้าคนนั้นไม่มีตังกลับบ้านจิงๆ
 
หรือว่าเดินขอเงินคนอื่นไปเรื่อยๆ  …
 

 
 
ตอนขากลับก็มีเรื่องให้สดุดอีกเรื่องนึง ก็คือ ซื้อตั๋วรถไฟฟ้าแล้วก็ขึ้นไปรอรถอยู่บนชานชลา ตอนเดินขึ้นไปก็เห็นมีผู้ชาย-หญิง สองสามคนยืนอยู่
 
เราก็ไม่ได้สนใจ แต่ดูๆเหมือนเค้างอนกันอยู่ (นี่ขนาดไม่สนใจนะเนี่ย เดี๋ยวๆ อย่าเข้าใจผิด ต้องอ่านให้จบก่อนแล้วจะรู้ว่าทำไมถึงเดาว่าเค้างอนกันอยู่)
 
เราก็เดินมารอรถตรงริมขอบ ยืนๆอยู่ก็เห็ผู้ชายคนนั้นลุกนั่งสักสิบครัง เสร็จแล้วคราวนี้ก็ลงไปวิดพื้น ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิด วิดพื้น พร้อมกับนับด้วย
 
 ไอเราก็ไม่กล้าจะฮามาก แต่ก็อะนะมองๆไปมันก็น่ารักดี ผู้ชายคนนึงกำลังวิดพื้นต่อหน้าผู้คนมากมายบนสถานีรถไฟฟ้าเพื่อขอคืนดี ทำไปได้…
 
เหอะๆ แต่รู้สึกว่าแฟนเค้าก็ไม่หายมั้ง … เอิ้กๆ
 
 


 
ปล.หวังว่าเพื่อนทุกคนคงสบายดีนะ ใครเป็นไงก็ส่งข่าวคราวกันบ้างนะ 😛
Scroll to top