Google Latitude : เมื่อโดนตามตูดทุกย่างก้าว

วันนี้มีของเล่นมานำเสนออีกแล้ว … ลั่น… ลัน.. ล๊า.. หลังจากหัวหมุนกับงานใหม่เล็กน้อย 🙂


คราวนี้ขอนำเสนอ Google Latitude … บริการเสริมเล็กๆบน Google Maps ที่ทำให้เราไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของเพื่อน … หึหึ ไปขายแอมเวย์ดีกว่ามั๊ยตู


Google Latitude จะทำการแสดงตำแหน่งล่าสุดของเพื่อนให้เราได้รับรู้ และในทางกลับกันก็เปิดเผยตำแหน่งของเราให้เพื่อนเห็นด้วยเช่นกัน (ออกแนวยื่นหมูยื่นแมว) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อนคนไหนจะเห็นที่อยู่ของเราได้บ้างนั้น จะต้องทำการขออนุญาติเป็นกรณีพิเศษ … นั่นหมายความว่าคุณจะต้องอนุญาติเป็นรายบุคคลเท่านั้น ไม่ว่าเพื่อนคนนั้นจะคุย GTalk กันทุกวันหรือ Mail หากันทุกคืนก็ตามที

Latitude บนเว็บ

 

ฤ จะได้เวลาลดความอ้วน ?

ลองนับเล่นๆ ว่า อาทิตย์หลังสุดมานี้ กินอะไรเข้าไปเยอะมาก …

จากเดิมที่ไม่ค่อยผอมอยู่แล้ว ย้ายงานก็ไม่ได้ออกกำลังกายอีกเลย  … เกือบจะ 6 เดือนล่ะ


แ้ล้วก็ลองไล่ๆดูว่ากินอะไรไปบ้าง

.. วันพฤหัสที่แล้ว บุฟเฟต์สไตล์เกาหลี ที่ร้านโกซิแร

.. วันศุกร์ทีมเอาท์ติ้ง บุฟเฟต์นานาชาติ ที่ The World @ Centara Grand

.. ถัดมา วันเสาร์ ไปกินข้าวบ้านยาย

.. วันอาทิตย์  น้องรับปริญญา ไปกิน MK มื้อเที่ยง

.. วันจันทร์ มื้อเที่ยงรีบไปเอาของที่พารากอน กินเบอร์เกอร์คิง … มื้อเย็น กิน Fuji

.. วันอังคาร มื้อเที่ยงกินส้มตำ … มื้อเย็นเป็นปิ้งย่างอีกแล้ว ที่ร้านโนบิตะ !!

.. หึหึ

แุถมรูปจาก โกซีแร และ The World @ Centara Grand ซัก 2-3 รูป กับ แผนที่ร้านโกซิแรด้านล่างสุด

โกซิแร - ว่างเปล่า
โกซิแร - หมู ฉึก ฉึก
ปุฟเฟต์ที่ The World - รวมไวด์แดงด้วย

แผนที่โกซิแร

[mappress mapid=”4″]

North Trip Dec 2010 : ร้านอาหารบนดอยอ่างขาง

จริงๆแล้วเหตุการณ์ดองบล็อกข้ามปีแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ><

ปลายๆเดือนธันวาฯปีที่แล้วไปเที่ยวเหนือมา(อีกแล้ว) จริงๆมันแทบจะเป็นทริปที่ไปซ้ำกับทริปเมื่อต้นปี 2010 เลยถ่ายรูปมาไม่ค่อยเยอะ แต่คราวนี้ที่ประทับใจมากกว่าครั้งก่อนคือ ร้านอาหารบนดอยอ่างขาง …

ครั้งที่แล้วที่ไป ได้กินอาหารเย็นที่ร้านตรงเมืองเล็กๆหน้าโครงการหลวง แต่คราวนี้ด้วยความบังเอิญ เลยได้นั่งกินที่ร้านอาหารสโมสรของของการหลวง (ตรงหน้าสวน 80 ปี) เลยจะมาโม้ว่าบรรยากาศดีมาก อาหารอร่อย ราคาไม่แพง บรรยากาศดีมาก เลยเอามาโฆษณากันหน่อย 🙂

แต่ว่าอาจจะต้องจองเล็กกัน ที่นั่งข้างนอกที่บรรยากาศดีๆ ส่วนใหญ่จะถูกจองไว้ ตอนเดินดูสวนก็แนะนำให้เดินเข้าไปจองก่อน พอซักเกือบทุ่มค่อยมากิน บรรยากาศดีเชียวแหล่ะ 😛

ภาพนี้แถม .. จากที่กางเต๊นท์ (Fxcam)

 

ส่วนทริปนี้ที่เหลือก็ตะรอนๆกินในเมืองเชียงใหม่ สนุก แต่ก็ไม่ได้มีรูปอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ 😛

อวดซองน้อง Kindle

ไม่มีอะไรมาก หลังจากได้น้อง Kindle DX มาเมื่อเดือนก่อน เราก็เลยต้องหาเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับฐานะ(ยากจน)นิดนึง เพื่อจะได้ถือไปไหนมาไหนได้อย่างสบายใจ เดี๋ยวมันจะถลอกปอกเปิกซะก่อน โพตส์นี้เลยมีแค่การอวดซอง Kindle ล้วนๆ ไม่มีสาระอย่างอื่นเจือปน 😛


สุดท้ายตัดสินใจเป็นตัวนี้ Case Logic Canvas Kindle DX Sleeve (Fits 9.7″ Display, Latest and 2nd Generation Kindles), Dark Green ฝากพี่ที่ที่ทำงานเก่าซื้อแล้วหิ้วกลับมา

รูปจาก Amazon :

รูปจากผม :


ค่อยๆเขมือบเครื่องเข้าไปทีละนิด


เข้าไปอยู่ได้พอดี



ปิดเรียบร้อย
”ขนาดมันพอมาก


สีของจริงจะเข้มกว่านี้ มันโดนแสงไปแล้วซีดไปเยอะ


 

ปล. ราคาประมาณ เกือบๆพัน ยังไม่รวมค่าจัดส่ง และรูปทั้งหมดถ่ายด้วย SS Galaxy S

 

Review : Kindle DX


เนื่องจากว่าได้ของขวัญชิ้นใหญ่เป็นน้อง Kindle DX เลยขอนำมาแกะกล่องให้ดูกันเล็กน้อย 🙂

หลังจากแกะกล่องของขวัญออก ก็เจอกับกล่องของ Amazon แบบนี้ (จริงๆด้านข้างมันไม่โหว่ขนาดนี้ ถ้าไม่พยายามแงะแบบโง่ๆ O_o)

กล่องดูแน่นหนามาก .. หลังจากแกะออกก็จะพบกับน้อง Kindle DX สีขาวหมวย นอนอยู่

เอาน้อง Kindle ออกก็จะพบกับคู่มืออย่างง่ายเล่มนึง (ออกแนวแผ่นพับ) กับสาย USB

Version ที่ส่งมาบ้านเราจะไม่แถมตัว Plug สำหรับเสียบไฟ จะต้อง Charge ผ่านคอมเท่านั้น

สรุปว่าอุปกรณ์ก็มีดังภาพที่เห็น … และเมื่อลอกแผ่นใสที่ปิดหน้าน้อง Kindle ออก ก็จะเห็นว่า คำแนะนำ + Logo Amazon Kindle นั้น แสดงผลโดย Kindle เอง …  ที่ทำแบบนี้ได้ก็เพราะตอนแสดงผลของ Kindle นั้นไม่ได้ใช้ไฟฟ้า !! จะใช้ไฟเฉพาะตอนเปลี่ยนภาพเท่านั้น !!

ลองเปิดเครื่องกัน … จะเห็นเด็กเหงานั่งอยู่ใต้ต้นไม้ (จริงๆเค้าจะมีความหมายดี แต่ตอนนี้คิดไม่ออก ฮ่าๆๆๆ)

เปิดหน้าแรกมาก็จะพบกับ Welcome to amazon kindle 🙂

หลังจากนั้นก็ทำการ Register เข้ากับ Account ของ Amazon เพื่อจัดการน้อง Kindle ได้ รวมทั้งการสั่งซื้อหนังสือที่ ทำได้ใน Click เดียว … (และตังก็หายไป – -“)

สิ่งที่รู้ตอนนี้ เกียวกับน้อง Kindle DX ตัวนี้คือ

  • ตัว Kindle DX ไม่มี WiFi ต่อผ่าน 3G/Edge ของ Whispernet เท่านั้น ซึ่งในไทยเข้าใจไว่าเป็น True เพราะแอบเห็น 3G แว๊บๆ … แต่ไม่ต้องสนใจ เพราะเราสามารถถือ Kindle ไปใช้ที่ไหนประเทศอะไรก็ได้ (ที่ Amazon ติดต่อไว้) ใช้ต่อเน็ตได้เลยไม่ต้อง Config
  • มี Browser เล็กง่ายๆในตัว พอกล้อมแกล้มเล่นนู่นเล่นนี่ได้ เพราะเน็ตฟรี !!
  • ซื้อหนังสือ Kindle Edition จาก Amazon Charge 2$ เข้าใจว่าเป็นค่า Whispernet
  • มี Social Network ง่ายๆ เช่น Hilight แล้ว Share ให้คนอื่นผ่าน Facebook/Twitter ได้
  • หนังสือฟรี (ทั้งแบบ 0$ และ 2$) ใน Amazon มีเยอะพอควร
  • อ่าน Format ได้หลายอยู่ (อยากรู้ คงต้อง Search Spec เอานะ)
  • น้ำหนักกำลังดี น่าจะพอๆกับ National Geographic ฉบับภาษาไทย
  • ฟีเจอร์อื่นๆยังนึกไม่ออก ลองดู Blog คุณ mk ที่นี่ และ ที่นี่ และ review ของคุณ  pittaya ที่นี่
Scroll to top