Review : Surface Pro 4

หลังจากรอมาประมาณสามเดือน ในที่สุดก็ได้เครื่องมาซักที รวมถึงได้เขียนบล็อกซักทีด้วย …

เข้าประเด็นเลยละกัน ..  เริ่มจากเมื่อกลางๆปีที่แล้ว มองหาคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ มาแทนเจ้า ThinkPad X201i ที่ไม่ค่อยจะทำไรได้แล้ว เนื่องจากแรมแค่ 4 GB กับ CPU ที่เป็นตัวรุ่นประหยัดไฟ เลยทำให้ทำงานหนักๆไม่ค่อยไหว

ต้องเล่าก่อนว่าตอนซื้อตัว x201i นี่โจทย์หลักๆคือต้องพกพาไปไหนสะดวก ไม่หนักจนเกินไป ซึ่งมันก็ตอบโจทย์ได้ดี

ซึ่งพอถึงเวลาที่ต้องหาเครื่องถัดมา ก็มีโจทย์เพิ่มขึ้นมาว่า พกพาได้เหมือนเดิมก็ดีนะ แต่ขอเพิ่มเติมว่า ต้องการพลัง cpu และ ram ในระดับที่สามารถทำงานเขียนโปรแกรมได้แบบลื่นๆด้วย ตัวเลือกเลยเหลือไม่เยอะ … แถมพ่วงด้วยราคากระฉูดทั้งนั้น

สุดท้ายเลยมาจบที่ Surface Pro 4 ตัว Core i7 มาพร้อมกับแรม 16 GB และ SSD 256 (ที่ดูเหมือนจะน้อยไปนิด) พ่วงด้วย Type Cover แบบมี Finger print และ Docking ที่จะใช้กับ หน้าจอ Dell 23″ ที่ซื้อมารอไว้(และอีกอันที่ยังไม่ได้ซื้อ) … เป็นอันว่าจบเรื่องคอมไปอีกอย่างน้อยก็สามสี่ปี

จริงๆตัว Surface ตัวนี้มีจุดที่ไม่ค่อยชอบสองอย่าง คือ ไม่มี WWAN (หรือ 3G) ที่ตัว x201i สามารถใส่ซิมการ์ดในตัวเครื่องแล้วใช้งาน 3G ได้เลย ยุคนี้มันควรจะมีได้แล้ว อีกเรื่องคือ port ที่ต่อออกจอเป็ร Mini DisplayPort ที่ทำเอายุ่งขึ้นเล็กน้อย ตรงที่ไม่แถมสายมาให้ และก็ไม่มีหน้าจอยี่ห้อไหนแถมสายแบบนี้มีให้ เรื่องที่สามที่ขอแอบพ่วงมาคือ ราคา … ตัว SSD 512 นี่แพงเกิ๊น ทำใจไม่ได้

SurfacePro4Review-001

มาดูกัน …

ตัว Surface ตัวนี้ ฝากสมบอยซื้อมาจากเมกา จริงๆตั้งใจจะซื้อตั้งแต่ธันวาคมปีที่แล้ว แต่ไม่มีของ ได้ซื้อจริงก็มกราคม ได้ของกลางเมษาฯ ถือว่านานพอดู แต่ก็แลกกับราคาที่ถูกกว่าซื้อเองในไทยพอสมควรเลย

ตัวกล่องมาใน package เรียบหรู สมราคา .. เปิดมาก็มีตัว Surface อยู่บนสุด ตามมาด้วย ปากกาที่มาพร้อมกันในชุดและคู่มือ มีกล่อง Adapter มาอยู่ข้างๆ หน้าจอเป็นจอกระจก ก็ชัดดี แก้ไขสายตาล้าด้วยการใช้กับจอ Dell ที่เป็นจอด้านที่บ้านก็น่าจะไม่แย่นัก


Type Cover มาในกล่องแบนๆต่างหากของตัวเอง … แน่นอน เพราะซื้อแยกหนิ

เมื่อจับรวมร่างประกอบ แล้วเปรียบเทียบกับ iPad Air 2 กับ จอ Dell P2314H

มาดูกันต่อที่ Docking ที่วางแผนไว้สำหรับต่อจอนอกสองจอ (ตอนนี้ยังมีแค่จอนอกอันเดียว ลองก่อน) ตัว Docking เองเป็นอะไรที่หนักมากกก … ประมาณครึ่งนึงของ UPS โดยทั่วไป

ประกอบไปด้วย ตัว Docking, Adapter และสายไฟ แค่นั้น .. น่าจะแถมสาย Mini DisplayPort to DisplayPort มาซักเส้น .. ใจร้ายมาก ตัว Docking เอง มี USB 4 Port , ข้างหน้า 2 ข้างหลัง 2, 2 mini DisplayPort, 1 Lan port, 1 3.5 mm audio out 

หลังจากที่ลองใช้เป็นยังไงบ้าง ?

– สิ่งแรกที่เจอคือ OS ที่มาพร้อมกับเครื่องไม่เสถียร(อย่างรุนแรง) แต่ก็ยังถือว่า MS ทำการบ้านมาดี มี Recover from Cloud มาให้ โดย Surface จะไปดาวโหลดตัว Image มาลงเองให้ใหม่เสร็จสรรพ คลีนๆกันไป .. แต่ดีกว่าถ้าไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ใครการใช้งานครั้งแรก มันจะดีกว่านี้ด้วยถ้าเน็ตไม่ช้าขนาดนี้ เดี๋ยวเปลี่ยนเป็น Ais Fibre น่าจะดีขึ้น

– ปากกาเวิร์คอยู่ โดยส่วนตัวไม่ได้เป็นคนวาดรูปเก่งเป็น แต่คิดว่ามีประโยชน์พอสมควร ใช้งานจดโน๊ตน่าจะง่ายขึ้นเยอะ คือเขียนเป็นลายมือไปเลย จะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลพิมพ์ไปฟังไป รับรู้น้ำหนักได้ในระดับโอเคเลย ที่ชอบที่สุดคือ กดที่ปลายปากกาสองครั้งเพื่อ Capture หน้าจอ กดหนึ่งครั่งเพื่อเปิด OneNote (เปลี่ยนแปลงได้)

– Type cover หรือ keyboard .. ตอนวางบนโต๊ะใช้งานก็แน่นหนาดี แต่คิดว่าวางบนตักไม่น่าจะทำงานได้ดี น่าจะเปลี่ยนไปใช้ Tablet โหมดดีกว่า, finger print ทำงานเร็วดีอย่างที่ควรจะเป็น 

– Windows Hello เป็นตัวปลดล้อกเครื่อง (หน้าจอ) โดยใช้กล้องอีกตัวที่ใส่มาพิเศษ เพื่อดูว่าเป็นเราที่ใช้อยู่รึเปล่า ถ้าใช่ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย มันจะเข้าเครื่องให้เองเลย เจ๋งดี

– OnScreen keyboard เหมือน Layout จะแปลกๆ เดี๋ยวลองดูอีกทีว่าปรับแก้อะไรได้บ้าง

– Windows Store .. สมคำล่ำลือ … ว่า แอพน้อยมาก ถึงมากที่สุด ให้มองอีกแง่นึงก็เหมือนจะเป็น opportunity ให้เราได้ทำอะไรขึ้นไปวางไว้ สำหรับ Surface pro มันยังไม่แย่เท่าไหร่ เพราะสามารถ Install software เองจากนอก Store อย่างที่เราทำๆกันมาได้ แต่ถ้าเป็น Windows Phone คงไม่น่าใช้ซักเท่าไหร่

– อย่างอื่นยังนึกไม่ออก อาจจะมีภาคสองหลังจากใช้งานไปพักนึง

 

 

64 Comments

  1. Brent Newbury
    September 9, 2016

    Oh you got a Surface Pro 4?! Awesome

    1. Kaew
      September 9, 2016

      yep yep 🙂 It’s quite cool. Hopefully they will have surface phone soon. 😛

Comments are closed.

Scroll to top
Exit mobile version